การระบาดของไวรัสโควิด-19ที่เกิดขึ้นตลอดหลายเดือนนี้ในด้านหนึ่งถือเป็นวิกฤติทั้งทางสุขภาพที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมที่มาตรการล็อกดาวน์ (Lockdown) ปิดกิจการต่างๆ เพื่อลดพฤติกรรมรวมกลุ่มซึ่งสุ่มเสี่ยงทำให้เกิดโรคระบาด ส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากกลายเป็นคนตกงานขาดรายได้ดำรงชีพ บางคนแบกรับไม่ไหวตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่อีกด้านหนึ่ง วิกฤติครั้งนี้ก็ทำให้เห็นศักยภาพของชุมชนในการรับมือสถานการณ์โรคระบาดเช่นกัน
พีรวัศ คิดกล้า ผู้ใหญ่บ้านบ้านสำโรง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เล่าว่า ชุมชนแบ่งกลุ่มเสี่ยงได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเสี่ยงหลัก คือ คนที่มาจากนอกหมู่บ้าน กลุ่มอาชีพเสี่ยงที่ไปทำงานในตัวเมืองแบบไปเช้า-เย็นกลับ กลุ่มภูมิต้านทานต่ำคือผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงสัมผัสและแพร่โรคคือร้านค้าในชุมชน การจัดการจึงเน้นเฉพาะไปที่ 4 กลุ่มนี้อย่างเข้มข้น คือกักตัวดูอาการกลุ่มเสี่ยงหลัก ติดตามพฤติกรรมและเตือนกลุ่มอาชีพเสี่ยง เฝ้าระวังกลุ่มภูมิต้านทานต่ำ และปูพรมให้ความรู้ แจกหน้ากากผ้า จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือทั่วหมู่บ้าน
ขณะที่ ณัฐพันธุ์ ศุภกาผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ถอดบทเรียนพื้นที่ตัวอย่างของบ้านสำโรงเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับชุมชนอื่นๆได้ลองนำไปปรับประยุกต์ให้เหมาะสมกับบริบทแวดล้อมของตนเอง เนื่องจากเมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 ชุมชนสามารถบริหารจัดการควบคุมโรคได้เป็นอย่างดีโดยไม่กระทบกับเศรษฐกิจและการยังชีพ เช่น ครัวเรือนมากกว่าร้อยละ 80 มีการปลูกข้าวและเลี้ยงสัตว์เอาไว้บริโภคเอง อีกทั้งมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการป้อนพืชผักปลอดสารพิษเข้าสู่ตลาด
ด้าน เข็มเพชร เลนะพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างสรรค์โอกาส สสส. กล่าวเสริมว่า หมู่บ้านสำโรง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นหนึ่งในพื้นที่การทำงานต้นแบบของแผนสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรมสุขภาวะ สสส. ที่สนับสนุนการดำเนินโครงการชุมชนน่าอยู่มาตั้งแต่ปี 2556 ผู้นำชุมชนสามารถทำงานเชื่อมประสานภายในพื้นที่และหน่วยงานภายนอกได้เป็นอย่างดี ทำให้บ้านสำโรงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นต้นแบบกิจกรรมสร้างเสริม
สุขภาพมากมาย ทั้งมาตรการชุมชนลดการใช้สารเคมี งานบุญปลอดเหล้า ครัวเรือนน่าอยู่ ไข้เลือดออกเป็นศูนย์ ฯลฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี