กรมอุตุเตือน57จว.
รับมือพายุฤดูร้อน
ลำปางน้ำป่าหลาก
บุรีรัมย์หนักสุด50ปี
อุตุฯประกาศเตือน 57 จังหวัด รับมือพายุฤดูร้อน ด้าน ปภ.ชี้11 จังหวัด ประสบภัยพายุฝน-ลมกระโชกแรง ที่ จ.ลำปาง น้ำป่าหลากเข้าท่วม อุดรฯ พบฟ้าผ่าวัวตาย ส่วนบุรีรัมย์พายุถล่มหนักสุดรอบ 50 ปี
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ฉบับที่ 12 เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบถึงวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ มีรายละเอียดว่า บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
สำหรับ 57 จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และจ.เพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ด้าน นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ช่วงวันที่ 10-12 พฤษภาคม ใน 11 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ ได้แก่ จ. พะเยา น่าน ลำปาง และลำพูน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.บึงกาฬ นครพนม ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และนครราชสีมา รวม 33 อำเภอ 91 ตำบล 318 หมู่บ้าน ส่งผลบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 1,864 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม
ขณะที่ นางทิวาพรรณ แซ่ลินวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านปางปงปางทราย หมู่ 9 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากตามห้วยแม่ตาล เอ่อท่วมบ้านเรือนริมฝั่งฉับพลัน กว่า 20 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 1 เมตร หลังจากฝนหยุดตก ระดับน้ำลดลงตามลำดับ ไม่มีน้ำท่วมขังแล้ว แต่สภาพพื้นที่เต็มไปด้วยคราบดินโคลนที่ถูกน้ำพัดมา โดยเฉพาะถนนทางเข้าหมู่บ้าน ทางรอดทางรถไฟ มีกิ่งไม้ เศษวัชพืชทับถม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสำรวจและแก้ปัญหาแล้ว
ที่ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดฝนตกหนักและมีฟ้าผ่ากลางทุ่งนา ส่งผลให้วัว 6 ตัว เป็นเพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 3 ตัว และลูกวัว 1 ตัว ของนายสมาน ศรีจันทร์ อายุ 59 ปี ตื่นตกใจ และวัวตายกลางทุ่งใกล้จุดที่ฟ้าผ่าต้นไม้ใหญ่สูงประมาณ 20 เมตร โดยนายสมาน เผยว่า นำวัวมาเลี้ยง 10 ตัว เป็นของตนเอง 3 ตัว อีก 7 ตัวเป็นของญาติ ซึ่งจะปล่อยให้กินหญ้าในทุ่งนา ก่อนจะเกิดฝนฟ้าคะนอง จึงพยายามจะต้อนวัวมารวมกัน หลบฝนที่กระท่อม แต่เกิดฟ้าผ่าเป็นระยะ จนวัวตาย เสียหายกว่า 270,000 บาท
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ จากพายุฝนฟ้าคะนอง และลมแรงที่เกิดขึ้นใน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทำให้หลังคาอาคารโรงเรียนบ้านถาวร ต.สวายจิก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พังเสียหาย 2 หลัง รวมทั้งอาคารเอนกประสงค์ ห้องน้ำ เสาธงหัก และวัสดุ ครุภัณฑ์ อุปกรณ์การเรียนการสอนที่เตรียมสำหรับเปิดภาคเรียน เสียหายไปด้วย ขณะเดียวกัน พายุยังพัดบ้านเรือน ยุ้งข้าว และคอกสัตว์ในพื้นที่หมู่บ้านถาวร เสียหายกว่า 40 หลัง เหตุที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี