“ดีอีเอส” เปิดตัวแอปฯ “ไทยชนะ” สู้โควิด เชิญประชาชนเช็คอินตรวจสอบร้านค้า ตาม 5 มาตรการ ศบค. ยันไม่ละเมิดสิทธิ เป็นข้อมูลลับทางการแพทย์
14 พฤษภาคม 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการแถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า กรณีการใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” สำหรับการควบคุมป้องกันโรค ในมุมของผู้ประกอบการที่ได้รับการผ่อนปรนในเบื้องต้น เพื่อใช้ทดแทนการลงทะเบียนการเข้าใช้บริการ โดยใช้วิธีการเช็คอิน-เช็คเอ้าท์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถลงทะเบียนออนไลน์ แล้วสแกน QR Code มาติดไว้หน้าร้าน โดยประชาชนที่มาใช้บริการสามารถให้คะแนนความพึงพอใจต่อผู้ประกอบการได้ด้วย
ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ใช้ในการเช็กอิน-เอ้าท์ การเข้าออกการรับบริการจากร้านต่างๆ ประชาชนที่ใช้ระบบจะได้ทราบความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในร้านค้านั้นๆด้วย และจะช่วยลดความยุ่งยากในการติดตามผู้ติดเชื้อ ถ้าได้ข้อความแจ้งจากระบบให้ตรวจเชื้อ จะสามารถเข้าตรวจได้ฟรี
โฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า กรณีการลงทะเบียนออนไลน์ในการเข้าใช้บริการต่าง ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ข้อมูลนี้จะอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น เพียงต้องการเบอร์โทรศัพท์ในการติดตาม หากไม่มีโทรศัพท์ แนะนำว่าอาจต้องใช้ 2 ระบบควบคู่กันไป
ด้าน นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ได้มีการทำแอปพลิเคชั่น ชื่อ “ไทยชนะ” โดยจะทำหน้าที่จัดการดูแลเรื่องมาตรการ 5 ข้อของ ศบค. โดยเริ่มต้นผู้ประกอบการ หรือร้านค้าจะต้องไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ เพื่อให้ได้คิวอาร์โค้ดมาแปะที่หน้าร้าน และเมื่อประชาชนมาใช้บริการจะต้องสแกนคิวอาร์โค้ด ถือเป็นการเช็คอิน และลงทะเบียนข้อมูลไปยังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยระบบของแอปพลิเคชั่น ประชาชนจะทราบปริมาณความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในร้านค้านั้นๆ และสามารถตัดสินใจว่าจะใช้บริการหรือไปร้านอื่น และควรจะเช็คเอ้าท์ออก เมื่อออกจากร้านทุกครั้ง
โดยเมื่อเช็คอินแล้วข้อมูลจะถูกส่งไปที่กรมควบคุมโรค เพื่อสามารถติดตามตัวผู้ใช้บริการที่ไปร้านค้าที่เป็นพื้นที่เสี่ยง โดยจะมีข้อความส่งไปยังโทรศัพท์มือถือ ให้สามารถไปรับบริการตรวจฟรีได้ ซึ่งข้อมูลทุกอย่างเป็นความลับหมด ไม่มีความซับซ้อนยุ่งยากอะไรในการใช้งา นอกจากนี้ ระบบจะกำหนดให้ประชาชนตรวจสอบผู้ประกอบการว่าปฏิบัติตามมาตรการ 5 ข้อของศบค.หรือไม่ และจะมีการให้คะแนนถือเป็นผลดีของผู้ประกอบการที่จะเรียกเรตติ้ง หากปฏิบัติตามทุกข้อ และยังถือเป็นความปลอดภัยของผู้ใช้บริการด้วย
นพ.พลวรรธน์ กล่าวต่อว่า ทุกกิจการที่ศบค.ประกาศผ่อนคลาย สามารถไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านขนาดใหญ่ ร้านดัง หรือร้านรถเข็นริมทาง เราไม่ได้เลือกขนาด แต่เลือกตามการผ่อนปรน แต่หากร้านไหนไม่ใช้วิธีนี้จะต้องมีสมุดจดและรับหน้าที่ลงทะเบียนให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ ซึ่งวิธีนี้จะวุ่นวายและยุ่งยาก เพราะถ้าหากร้านนั้นกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงจะต้องตามเช็คข้อมูลผู้ใช้บริการกันทั้งวันและไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ แต่หากใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ดจะสามารถจำกัดบุคคลกลุ่มเสี่ยงได้เป็นช่วงเวลา ซึ่งจะลดความวุ่นวายลงได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป็นการละเมิดสิทธิ เพราะเป็นเรื่องการควบคุมโรค เรื่องของแพทย์เหมือนตอนเราไปโรงพยาบาล เราต้องบอกข้อมูลกับแพทย์และข้อมูลนั้นจะเก็บไว้ในกรมควบคุมโรค นำมาใช้ด้วยเหตุผลในการควบคุมโรคเท่านั้น จะใช้ในกิจกรรมอื่นไม่ได้ ซึ่งในวันที่ 15 พฤษภาคม จะเริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียน โดยในช่วงแรกคงติดขัดกันบ้าง เป็นเรื่องปกติของการปรับตัว ถ้าเราช่วยกันประเทศไทยเราชนะแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี