คกก.ควบคุมโรคติดต่อกทม.เตรียมหารือปลดล็อคสถานที่ตามแนวทางรัฐบาล พิจารณามัสยิดใดพร้อมละหมาดวันศุกร์ได้ตามประกาศจุฬาราชมนตรี
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 42/2563 ซึ่งมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล กอ.รมน.กทม. สำนัก ร่วมประชุม และผู้แทนกลุ่มเขต ทั้ง 6 กลุ่มเขต ได้ร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล Teleconference ด้วย
ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลมีมติให้ผ่อนปรนมาตรการเปิดสถานที่เพิ่มเติม และปรับเปลี่ยนเวลาเคอร์ฟิว โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อแต่ละจังหวัดกำหนดมาตรการควบคุมในพื้นที่ให้เหมาะสมนั้น ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.63) กรุงเทพมหานครจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะกำหนดรายละเอียดมาตรการควบคุมดูแลสถานที่แต่ละแห่งอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมกำชับให้สำนักงานเขตพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการตรวจพื้นที่ และสถานประกอบการ และกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการของกรุงเทพมหานครที่กำหนดอย่างเคร่งครัด มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 โดยมีสาระสำคัญคือ การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ได้นั้น คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร จะพิจารณาก่อนว่ามัสยิดใดมีความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด อาทิ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การลงทะเบียน และการคัดกรองผู้มาร่วมพิธี โดยสำนักงานเขตพื้นที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมดังกล่าว ก่อนเปิดให้ละหมาดได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี