การระบาดของไวรัสโควิด-19แม้ด้านหนึ่งหมายถึงความสูญเสียทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจ แต่อีกด้านหนึ่งยังได้เห็นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ดังเมื่อเร็วๆ นี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัวสิ่งประดิษฐ์เป็นหุ่นยนต์ 2 ชนิด ได้แก่
1.หุ่นยนต์เวสตี้ (Wastie) เก็บขยะติดเชื้อ ประกอบด้วย AGV แบบระบบนำทางด้วยเทปแม่เหล็ก และแขนกล (CoBot) สำหรับยกถังขยะโหลดขึ้น โดยมีระบบกล้อง Machine Vision ในการจำแนกประเภทวัตถุและตำแหน่ง การยกแต่ละครั้งได้สูงสุด 5 กิโลกรัม ส่วนของ AGV สามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 500 กิโลกรัม ความเร็วในการเคลื่อนที่ไม่ต่ำกว่า 8 เมตรต่อนาทีใช้ระบบนำทางแบบ Magnet โดยติดเทปแถบแม่เหล็กไว้ที่พื้นเป็นเส้นนำทาง
การทำงานหุ่นยนต์จะเคลื่อนที่ไปตามแนวเส้นนำทาง การทำงานเริ่มจากขดลวดกระตุ้นผลิตสนามแม่เหล็กไฟฟ้าโดยที่มีชุดตรวจจับคอยตรวจจับทำให้การเคลื่อนที่มีความเที่ยงตรงและแม่นยำ เมื่อถึงจุดรับขยะจะอ่านบาร์โค้ด แล้วยกถังขยะติดเชื้อไปยังกระบะจัดเก็บ หากใช้ใน4 โรงพยาบาล จะสามารถขนส่งขยะติดเชื้อได้ประมาณ 10 ตันต่อวัน ช่วยลดปัญหาของการหยุดชะงักของการขนส่งจากปัญหาการติดเชื้อของบุคลากรได้กว่าร้อยละ 50
กับ 2.หุ่นยนต์ฟู้ดดี้ (Foodie) ส่งอาหาร-ยาในหอผู้ป่วย ตอบโจทย์วิถีใหม่ของบุคลากรทางการแพทย์ ลดการสัมผัสตรงกับผู้ป่วย รวมทั้งงานหนักที่ต้องใช้คนและเวลามากในโรงพยาบาล นวัตกรรม หุ่นยนต์ฟู้ดดี้(Foodie) ใช้ระบบนำทางอัจฉริยะด้วยข้อมูลแผนที่ในตัวหุ่นยนต์แบบ QR-CodeMapping สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 30-50 กิโลกรัม ความเร็วในการเคลื่อนที่ 8 เมตรต่อนาที หุ่นยนต์ประกอบด้วยชุดขับเคลื่อนที่นำทางด้วยการใช้กล้องอ่าน QR Code บนพื้น
โดย AGV จะเคลื่อนที่ตามที่ได้ตั้งโปรแกรมไว้ และจดจำพิกัดและคำสั่งตามที่บันทึกไว้ในแต่ละ QR-Codeในส่วนของระบบการส่งอาหาร เน้นการขนส่งครั้งละมากๆ และการออกแบบกลไกอัตโนมัติให้ส่งถาดอาหารเข้าสู่จุดหมายแบบไม่ต้องมีมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถนำส่งอาหาร 3 มื้อ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ไปยังห้องผู้ป่วยประมาณ 200 คน ต่อวัน รวมทั้งการนำกลับ
นพ.สมชาย ดุษฎีเวทกุลรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาหุ่นทั้ง2 ชนิด กล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าไป 2 คน3 มื้อรวมเป็น 6 คน และยังมีแม่บ้านเก็บขยะติดเชื้ออีก 1 คน ต่อผู้ป่วย 1 คนทุกคนต้องสวมชุด PPE ดังนั้นการใช้หุ่นยนต์เวสตี้ (Wastie) เก็บขยะติดเชื้อและหุ่นยนต์ฟู้ดดี้ (Foodie) ส่งอาหาร-ยา จะเป็นประโยชน์มากเพราะช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อ ลดความสิ้นเปลืองชุด PPE
ทั้งสามารถขนส่งชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักได้มากกว่าหุ่นยนต์ทั่วไป และคุ้มค่าต่อคาบเวลาในการขนส่งใน โรงพยาบาล อีกทั้งมีความแม่นยำของการขนส่งในเส้นทางที่เป็นกิจวัตรประจำ สามารถหยุดตามสถานี เพื่อทำงานในโหมดที่มีคำสั่งที่แตกต่างกันได้ขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งเส้นทางใหม่หากมีการปรับเปลี่ยน โครงสร้างแข็งแรงและทำงานได้อย่างรวดเร็วสอดคล้องกับลักษณะงานของโรงพยาบาล คาดว่าจะสามารถทดแทนการใช้แรงงานบุคลากรได้กว่าร้อยละ 30
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี