จากกรณีเมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ศบค.รายงานพบชายไทยอายุ 72 ปี ป่วยมะเร็ง เบาหวานและมีการเดินทางไป รพ. เอกชน และจากนั้นเดินทางไปตัดผมย่านประชาชื่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเริ่มมีอาการไข้ ไอ เสมหะและเดินทางไปรักษาที่ รพ.เอกชน ก่อนจะย้ายมารับการรักษาใน รพ.รัฐแห่งหนึ่ง ย่านสมุทรปราการนั้น
วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงการสอบสวนโรคกรณีพบการติดเชื้อโควิด -19 ในประเทศว่า ชายคนดังกล่าวถือเป็นกลุ่มเสี่ยงเปราะบาง เพราะมีภูมิคุ้มกันต่ำ มีโรคประจำตัวและสูงอายุ
จากการสอบสวนโรค โชคดีที่ชายคนดังกล่าว มีการสวมหน้ากากอนามัยอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่เข้าไปรับบริการตัดผม พบว่า เป็นช่วงที่ไม่มีลูกค้าอื่นเข้ามารับการพอดี ทำให้พนักงานภายในร้าน 8 คน มีความเสี่ยงต่ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน และพนักงานภายในร้านก็สวมหน้ากากอนามัย และได้ปิดการให้บริการชั่วคราวก่อน และขณะนี้ร้านดังกล่าวก็ได้เข้าการประเมินด้วย“ไทยชนะ” แล้วเช่นกัน ส่วนสมาชิกในครอบครัว 2-3 คน อยู่ระหว่างการตรวจหาเชื้อ คาดว่าจะทราบผลในวันพรุ่งนี้ (23พ.ค.)แต่เบื้องต้นไม่พบใครมีอาการป่วย ซึ่งก็มีโอกาสที่จะรับเชื้อใน รพ.
นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนรายที่ 2 เป็นชายเยอรมัน 42 ปี เดินทางมาประเทศไทย เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อมาเยี่ยมญาติภรรยาที่ จ.ชัยภูมิ การเดินทางใช้รถยนต์ส่วนตัว จากการตรวจหาเชื้อในกลุ่มคนใกล้ชิดทั้งภรรยาและลูกไม่พบมีอาการป่วย หรือติดเชื้อ จึงได้ดำเนินการตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงลึกในชุมชนเพิ่ม เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางจังหวัดชัยภูมิใน ปลายเดือนมีนาคมและเมษายน พบผู้ป่วย 3 คน
ส่วนปัจจัยการสวมหน้ากากอนามัยชายชาวเยอรมันนี้ พบว่า มีการสวมหน้ากากอนามัยบ้าง แต่ไม่สม่ำเสมอ แต่เชื่อว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เมื่ออยู่ในประเทศไทยมาตั้งแต่เดือน ม.ค. พร้อมย้ำการป้องกันโควิด -19 ที่ต้องทำสม่ำเสมอ และการ์ดตกไม่ได้คือการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และการสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ
นพ.โสภณ กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าปัจจัยหลักที่ทำให้การติดเชื้อในผู้ป่วยน้อยลงและไม่แพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย โดยพบว่า คนติดเชื้อไม่สวมหน้ากาก แต่คนทั่วไปสวมหน้ากาก ลดการติดเชื้อได้ร้อยละ 30 และหากคนติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัย แต่คนทั่วไปไม่สวมหน้ากาก ลดการติดเชื้อได้ ร้อยละ 95 แต่หากทั้งคนติดเชื้อสวมหน้ากาก และคนทั่วไปสวมหน้ากาก สามารถลดการติดเชื้อได้ร้อยละ 98.5 เท่ากับ มีโอกาสติดเชื้อแค่ร้อยละ 1.5
สำหรับฤดูฝนที่เชื่อว่าจะมีอัตราป่วยไข้หวัดเพิ่มสูง แต่หากมีการสวมหน้ากากอนามัย เชื่อว่าโรคจะลดลงยิ่งขึ้น เพราะในฤดูร้อนที่โรคระบบทางเดินหายใจ มีน้อยอยู่แล้ว ยิ่งสวมหน้ากากอนามัย ก็จะช่วยป้องกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี