“บิ๊กสช.”เสนอขอเปิดโรงเรียนนานาชาติ 216 แห่ง 1 มิ.ย.นี้ มั่นใจมาตรการรองรับปลอดภัย
วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) เปิดเผยว่า สช.ได้เสนอนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาเรื่องการประกาศเปิดภาคเรียน เฉพาะของโรงเรียนนานาชาติ ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ จำนวน 216 แห่ง ที่กระจายอยู่ใน 28 จังหวัดทั่วประเทศ หลายโรงเรียนไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่สีแดงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยโรงเรียนนานาชาติ เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล-ม.6 ที่เปิดสอนใระดับอนุบาลมี 51 โรง นอกนั้นเปิดสอนทุกระดับชั้น
ทั้งนี้ ตนเสนอ รมว.ศธ.ว่าโรงเรียนนานาชาติที่มีอยู่ในประเทศไทย ทั้ง 216 แห่ง ซึ่งเปิดสอน 2 ภาคเรียน มี 81 แห่ง และเปิดสอน 3 ภาคเรียน 135 แห่ง โดยใช้หลักสูตรเดียวกับต่างประเทศ เช่น อังกฤษ อเมริกา สิงค์โปร์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แต่ปัญหาคือในเดือน พ.ค.-มิ.ย. เป็นการเริ่มต้นของภาคเรียนที่ 1 ของโรงเรียนนานาชาติ 11 แห่ง ภาคเรียนที่ 3 มี 201 แห่ง และเดือน มิ.ย.เป็นเดือนสุดท้ายของปีการศึกษา ของโรงเรียนนานาชาติ 201 แห่ง และหากกระทรวงศึกษาฯ ประกาศเปิดภาคเรียนพร้อมกันในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งในเดือน ก.ค. ตรงกับการประกาศปิดภาคเรียนของโรงเรียนนานาชาติแล้ว จำนวน 197 แห่ง เพราะฉะนั้น การประกาศกระทรวงที่จะให้เปิดภาคเรียนในวันที่ 1 มิ.ย.2563 นี้ จะส่งผลกระทบรุนแรงกับโรงเรียนนานาชาติ
"ผมจึงเสนอว่า เหตุผลที่ควรผ่อนผันให้โรงเรียนนานาชาติให้เปิดเทอมในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ มีเหตุผลว่า โรงเรียนนานาชาติ มีนักเรียนต่อห้องเพียง 20-25 คน เท่านั้น และที่มีห้องละ 25 คนจะเป็นชั้นมัธยมปลาย และชั้น ม.ปลายของโรงเรียนนานาชาติ จะแบ่งตามกลุ่มสนใจและเฉพาะด้าน ทำให้แยกย่อยต่อห้องลงอีก และจากผลสำรวจ นักเรียในโรงเรียนนานาชาติส่วนใหญ่มีนักเรียนต่อห้อง 10-20 คน เพราะโรงเรียนเน้นเรื่องคุณภาพ และโรงเรียนนานาชาติส่วนใหญ่มีพื้นที่กว้าง มีห้องเรียนที่เพียงพอ ส่วนจำนวนครูและบุคลากรในโรงเรียนนานาชาติครู 1 คน ต่อ นักเรียน 10 คน ซึ่งจากที่ สช.สำรวจชั้นอนุบาล ครู 1 คน ต่อนักเรียน 7 คน ฉะนั้น สัดส่วนนี้จึงเอื้อต่อการป้องกันโรคโวิด-19 ได้ดี”เลขาธิการ กช.กล่าว
นายอรรถพล กล่าวว่า โรงเรียนนานาชาติ มีความตระหนักในเรื่องการรักษาชื่อเสียงของโรงเรียนสูงกว่าโรงเรียนทั่วไป จะเห็นได้จากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขึ้นในช่วงแรกๆและมีปัญหาว่าเด็กติดเชื้อง ทางโรงเรียนนานาชาติทุกโรงได้ให้ความสนใจและมีความระมัดระวังอย่างจริงจังและระมัดระวังชื่อเสียงอย่างเต็มที่ เพราะถ้าหากมีเด็กติดเชื้อ หรือไม่ป้องกันให้มีความปปลอดภัย ทางโรงเรียนไม่ใช่แค่เสียชื่อในประเทศไทยเท่านั้น แต่หมายถึงโรงเรียนเหล่านั้นตลอดหลักสูตรจะกระจายไปทั่วโลก ดังนั้น โรงเรียนนานาชาติจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ดังนั้น สช.จึงเห็นว่าความตระหนักเหล่านี้เป็นปัจจัยเอื้อจึงควรจะผ่อนผันให้โรงเรียนนานาชาติเปิดภาคเรียนได้ และผู้ปกครองทีทส่งลูกมาเรียนนานาชาติก็มีความพร้อมสูงมากในการป้องกันโลกและไม่ได้เรียกร้องใดๆจากภาครัฐหรือจากโรงเรียน
เลขาธิการ กช. กล่าวต่อว่า โรงเรียนนานาชาติทั่ง 216 แห่งนี้ มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความพร้อมด้านสาธารณสุขและโครงสร้างพื้นฐานอย่างดี หากเกิดกรณีที่มีนักเรียนติดเชื้อก็จะไม่มีการรอให้ผู้ปกครองมารับตอนเย็น จะมีรถ มีหน่วยบริการ บางโรงเรียนมีพยาบาลวิชาชีพข้ามาดูแลในโรงเรียนด้วยจึงเป็นจุดเอื้อ และจากการสำรวจในโรงเรียนนานาชาติ 216 แห่ง มีนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนไม่เกิน 30% นอกนั้นเป็นนักเรียนไทย และใน 30% ของนักเรียนต่างชาติที่เรียนอยู่ในโรงเรียนนานาชาตินี้ก็พำนักอยู่ในประเทศไทยมาก่อน 18 มี.ค.หรือปลายเดือนมีนาคม
"เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่านักเรียนต่างชาติที่เรียนอยู่ในโรงเรียนนานาชาติจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ในการป้องกันความเสี่ยงและการแพร่เชื้อ และในโรงเรียนนาชาติก็มีการสอนออนไลน์อยู่แล้วมีแพลตฟอร์ม มีเครื่องมือสื่อสารที่ดี และการให้โรงเรียนนานาชาติเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 มิ.ย.เด็กทุกคนก็ไม่ได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนทั้งวันแบบปกติ จะมีการเรียนทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์ด้วย และโรงเรียนมันระบบติดตามนักเรียนกรณีมีปัญหาจะติดตามได้ง่ายกว่าปกติ"เลขาธิการ กช.ระบุ
นายอรรถพล กล่าวว่า ถ้าไม่ให้โรงเรียนนานาชาติเปิดเทอมได้ในวันที่ 1 มิ.ย.จะเกิดผลกระทบ ความเสียหายต่อตัวประเทศชาติด้วย เพราะเดือน มิ.ย.เป็นเดือนสุดท้ายของปีการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติทั่วโลกที่เรียนภายใต้หลักสูตรเดียวกัน ถ้านักเรียนของเราเรียนจบไม่พร้อมหลักสูตรเกียวกันที่เรียนอยู่ต่างชาติจะเกิดผลกระทบกับนักเรียนของเราที่จะไปเรียนต่อต่างชาติ และสช.พบว่าขณะนี้มีผู้ปกครองกลุ่มโรงเรียนนานาชาติได้ร้องเรียนไปที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) และ สคบ.ก็ส่งเรื่องมาให้ สช.ค่อนข้างเยอะว่าอยากเห็นการสอนทั้งแบบออนไลน์และออนไซต์ จะปิดกั้นไม่ให้มาโรงเรียนเลยเหมือนเราผิดสัญญาตั้งแต่ต้น
"ขณะนี้ผมได้นำเรื่องนี้เสนอให้ รมว.ศธ.รับทราบแล้วทั้งเรื่องขอคืนธรรมเนียมการเรียนและความไม่พึงพอใจที่ต้องเรียนระบบออนไลน์ตลอดเวลา และมีผู้ปกครองบางรายชะลอการจ่ายค่าธรรมเนียมจึงผลกระทบกับทางโรงเรียนทันที เพราะโรงเรียนต้องจ้างครูในราคาที่สูง และหากเราเปิดให้นักเรียนเหล่านี้ได้เรียนและจบในเดือน มิ.ย.หากเด็กเหล่านี้ได้ไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยประเทศต่าง ๆเราก็คาดหวังว่าเขาจะมีทัศนคติที่ดีกับประเทศไทยต่อไปด้วย"เลขาธิการ กช.กล่าว
และว่า สช.ได้เสนอ รมว.ศึกษา และ สคบ.ให้เป็นกรณีพิเศษสำหรับโรงเรียนนานาชาติ ทั้ง 216 แห่ง โดย สช.ได้กำหนด 26 มาตรการรองรับ และอาจจะเพิ่มความเข้มข้นเข้าไปอีก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน และระหว่างเปิดเรียน อาทิ ให้โรงเรียนสำรวจข้อมูลครู นักเรียน ผู้ปกครอง และบุคคลที่เกี่ยวข้องว่าเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงภายใน 14 วัน หรือมีอาการแสดงความเสี่ยงคิดเชื้อโควิด-19 ให้แจ้งโรงเรียรทราบทันที ให้แบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน จัดเตรียมสถานที่ห้องเรียน ที่นอนกลางวัน พื้นที่เรียนรวม โรงอาหาร ใช้ Social distancing มีระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 เมตร และต้องหมั่นตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ให้พร้อมใช้ ทำความสะอาดพื้นที่ภายในโรงเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอนทุกครั้งก่อนเปิดเรียน
นอกจากนี้ ต้องทำจุดคัดกรองที่ประตูทางเข้าโรงเรียน ตรวจวัดอุณภูมิร่างกายนักเรียน ครู บุคลากรที่เข้ามาในโรงเรียนทุกคน ถ้ามีอุณภูมิเกิน 37.5 องศา หรือมีอาการ ไอ จาม มีน้ำมูก มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจไม่อนุญาตให้เข้ามาในโรงเรียน และให้มีบันทึกเก็บไว้ และให้ผู้ปกครองวัดอุณภูมินักเรียนก่อนมาเรียนหากพบอุณภูมิสูงกว่า 37.5 ไม่ต้องมาโรงเรียน พนักงานขับรถโรงเรียนต้องตรวจสัดอุณภูมิ หากสูง 37.5 องศา ไม่ต้องปฏิบัติหน้าที่ และต้องทำความสะอาดรถทุกรอบ และพนักงานขับรถต้องมีเทอร์โมมิเตอร์ประจำตัวเพื่อวัดอุณภูมินักเรียนก่อนขึ้นรถ หากสูงกว่า 37.5 องศา ไม่อนุญาตให้ขึ้นรถ
ส่วนนักเรียน ครู บุคลากร ผู้มาติดต่อกับโรงเรียน ต้องใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ในพื้นที่โรงเรียน โรงเรียนต้องัดระบบระบายอากาศที่ถ่ายเทดี ทำความสะอาดห้องน้ำ สนามเด็กเล่น อุปกรณ์ต่างๆอย่างสม่ำเสมอ และไม่อนุญาตให้นำของเล่นส่วนตัวมาใช้ในโรงเรียน ควบคุมคุณภาพอาหาร และน้ำดื่ม ในโรงเรียน และครู นักเรียนต้องมีกระติกน้ำ และแก้วน้ำส่วนตัว ยกเลิกจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรภาคบ่ายทั้งหมด งดกิจกรรมกลุ่มที่มคนหมู่มาก งดกิจกรรมกีฬาเป็นทีม งดการสัมผัสตัว ทุกคาบเรียน ครูต้องเตือนนักเรียนให้ล้างมือ และมีเจลให้บริการหน่าโรงเรียนมในห้องเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร กรณีพบนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 ให้โรงเรียนประสานหน่วยงานสาธารณสุข หลีกเลี่ยงการเรียนในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง การให้นักเรียนมาโรงเรียนหรือไม่มาให้เป็นดุลพินิจของผู้ปกครอง
เลขาธิการ กช. กล่าวอีกว่า ส่วนหลังเลิกเรียน โรงเรียนต้องแจ้งผู้ปกครอง เพื่อมารับนักเรียนกลับบ้านทันที โรงเรียนต้องตั้งกรรมการติดตามและประเมินผลมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และรายงานผู้อำนวยการสถานศึกษาทราบเป็นประจำทุกวัน ดังนั้นโรงเรียนนานาชาติทุกแห่งจะต้องปฏิบัติตามมาตรการนี้ถ้าจะเปิดเรียนในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
“ขณะนี้ รมว.ศึกษา ยังไม่ได้เห็นชอบตามที่สช.เสนอขอเป็นโรงเรียนนานาชาติ 216 แห่งเป็นกรณีพิเศษในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ก็ต้องรอ ส่วนที่ สช.เสนอขอเพราะเป็นห่วงโรงเรียนนานาชาติ และ สช.มั่นใจในมาตรการที่เรามี เรามั่นใจว่าจะสามารถควบคุมกำกับได้ ส่วนกรณีประเทศเกาหลี ฝรั่งเศส ที่เปิดเรียนแล้วมีเด็กติดเชื้อจำนวนมาก เราก็ต้องถามว่าแล้วเขามีมาตรการเหมือนเราหรือเปล่า ซึ่งสช .มั่นใจว่าเราวางมาตรการนี้ปลอดภัย และมั่นใจว่าเราควบคุมกำกับได้ทั่วถึง เพราะโรงเรียนนานาชาติขึ้นตรงกับส่วนกลางโดยตรงแล้ว” เลขาธิการ กช.กล่าว
และว่าสำหรับโรงเรียนเอกชนทั่วไป สช.ก็เตรียมมาตรการรองรับที่จะเปิดเทอมในวันที่ 1 ก.ค.ตามประกาศ ของศธ. ส่วนโรงเรียนนอกระบบ สช.กำลังพิจารณาว่าจะผ่อนผันประเภทใดได้บ้าง เข้าใจว่าประเภทสอนเดี่ยว ตัวต่อตัว ไม่มีโอกาสสัมผัสตัวกัน สอนกลุ่มไม่ใหญ่ ส่วนกลุ่มใหญ่ที่มีการสัมผัสตัวกัน หรือเรียนเทควันโด ต้องชะลอไว้ก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี