‘รพ.ธรรมศาสตร์’แถลงอาการ‘น้องยิ้ม-อิ่มบุญ’ เผยจ่ายส่วนต่างค่ารักษาแค่หลักพัน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ และ ดร.ขนิษฐา บูรณพันธ์ศักดิ์ หัวหน้างานสังคมสงเคราะห์ ร่วมกันแถลงข่าวรักษา “น้องยิ้ม” และ “น้องอิ่มบุญ”
รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 แม่ได้นำน้องยิ้ม วัย 3 ปี 7 เดือน มารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เนื่องจากอาเจียนเป็นสีดำคล้ำ ผู้ปกครองแจ้งว่าเด็กแพ้ยา azithromycin , แพ้ซีอิ้ว อาหารทะเล ถั่ว เนื้อวัว แป้งสาลี แบบรุนแรง (anaphylaxis) ซึ่งจะวนเวียนรับการรักษาจากโรงพยาบาลถึง 7 ครั้ง จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2562
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 แม่ของ ด.ช.อิ่มบุญ นำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เนื่องจากมีอาการอาเจียนเป็นเลือด หลังจากกินปลาหมึกย่าง อาเจียนเป็นเลือดสีดำคล้ำ อุจจาระเหลวสีดำ ปวดท้อง มีอาการหลังจากกินปลาหมึกย่าง
สำหรับกรณีของ “น้องยิ้ม” ทางทีมแพทย์ผู้รักษาได้ร่วมประชุมสืบค้นข้อมูลการรักษาย้อนหลัง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ลงความเห็นว่าปัญหาที่พบขณะรักษา ดังนี้
1.เลือดออกในทางเดินอาหารส่วนบน จากการตรวจวินิจฉัยที่ทำทั้งการส่องกล้องทางเดินอาหาร ตรวจชิ้นเนื้อเยื่อบุหลอดอาการ กระเพาะอาหาร และตรวจหาเชื้อ ผลการตรวจพบเม็ดเลือดขาวที่เกี่ยวข้องกับภาวะภูมิไวในทางเดินอาหาร ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การแพ้อาหาร หรือการได้รับสารบางอย่าง อย่างไรก็ตามได้ให้การรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกันหลายชนิดแล้วไม่ตอบสนองต่อยา และไม่สามารถควบคุมภาวะเลือดออก ทีมแพทย์จึงลงความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยได้รับสารบางอย่างที่มีฤทธิ์ทำให้เยื่อบุหลอดอาหารและกระเพาะอาหารอักเสบ
2.ความดันโลหิตสูง จากการตรวจวินิจฉัยที่ทำทั้งการตรวจเลือด การฉีดสีหลอดเลือดไต การใช้คลื่นแม่เหล็กตรวจหลอดเลือด (MRI, MRA) รวมถึงการผ่าตัดไตออกบางส่วนเนื่องจากข้อมูลเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่าอาจจะเป็น reninoma ก็พบว่าผลตรวจปกติ ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่า เมื่อเด็กอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต การควบคุมความดันทำได้ดี และสามารถลดยาลดความดันได้อย่างรวดเร็ว แต่ความดันกลับสูงขึ้นใหม่เมื่อเด็กออกจากหอผู้ป่วยวิกฤต ไปอยู่ในการดูแลของผู้ปกครองจนต้องเพิ่มยาควบคุมความดันหลายชนิด และเป็นปรากฏการณ์ที่พบซ้ำ ๆ ทีมแพทย์จึงลงความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยได้รับสารบางอย่างที่มีฤทธิ์เพิ่มความดันโลหิตในร่างกายโดยตั้งใจ
3.ตับวายเฉียบพลัน การตรวจหาสาเหตุตามมาตรฐานรวมถึงการตรวจชิ้นเนื้อ ไม่สามารถหาสาเหตุได้ชัดเจน แต่เนื่องจากเป็นช่วงท้ายของชีวิต ทีมแพทย์มีเวลาตรวจหาสาเหตุไม่นานพอ ไม่สามารถลงความเห็นว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
ส่วน “ด.ช.อิ่มบุญ” ขณะที่อยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้น ได้รับการดูแลต่อเนื่องดังนี้
1.แผลรูเปิดของหลอดอาหารด้านข้างคอ ยังคงมีอาหารออกมาที่แผลนี้เมื่อกินหรือดื่ม รักษาโดยทำแผล และรอให้แผลปิดเอง ในการตรวจติดตาม ถ้ารูเปิดไม่เล็กลง จะพิจารณาผ่าตัดปิดรูโดยกุมารศัลยแพทย์
2.เสียงแหบ และมีเสมหะขณะกินอาหาร ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการการอักเสบของกล่องเสียงเนื่องจากการสำลักสารกัดกร่อนร่วมกับการใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นเวลานาน รักษาโดยติดตามและอาจพิจารณาส่องกล้องตรวจกล่องเสียง และตรวจปัญหาการกลืนต่อไป
3.นิ้วโป้งและนิ้วชี้มือขวาข้อสุดท้ายเป็นเนื้อตาย นิ้วชี้เนื้อตายหลุดออกไปแล้ว ดูแลโดยทำแผลให้วันละครั้ง สำหรับนิ้วโป้งรอให้เนื้อตายหลุดออกเอง หลังจากแผลหายดี สามารถฝึกให้เด็กใช้นิ้วมือ เพื่อลดข้อจำกัดการใช้นิ้วมือ และค่ารักษาน้องอิ่มบุญนั้นอยู่ที่ประมาณ 1 แสนกว่าบาท
4.อาการเหนื่อยเมื่อเล่น เป็นผลจากมีการอักเสบรุนแรงของปอด เกิดการอักเสบเรื้อรังตามมา โดยอาการดีขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้จะมีการนัดตรวจติดตามกับกุมารแพทย์ และศัลยแพทย์ ต่อไป
ทั้งนี้ ค่ารักษาพยาบาลของน้องทั้ง 2 คน เป็นการรักษาตามสิทธิ์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) , กองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเด็ก และกองทุนสังคมสงเคราะห์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ โดยค่าใช้จ่ายของน้องยิ้มอยู่ที่ประมาณเกือบ 5 แสนบาท ส่วนของน้องอิ่มบุญ ค่าใช้จ่ายเกือบ 1 แสนกว่าบาท โดยทั้งสองคนนี้มีค่าส่วนต่างอยู่ที่หลักพันบาทเท่านั้น
ด้าน ดร.ขนิษฐา บูรณพันธ์ศักดิ์ หัวหน้างานสังคมสงเคราะห์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ได้มีกองทุนที่ช่วยเหลือผู้ป่วยผู้ยากไร้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลต่างๆนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามอยู่ในระหว่างหาหลักฐาน ซึ่งทางแพทย์ก็ไม่ขอเปิดเผยอะไรมาก และขณะนี้ “น้องอิ่มบุญ” อยู่การในดูแลของกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี