วันพุธ ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 15.48 น.
27 พฤษภาคม 2563 ความคืบหน้าคดีฆ่าเผาสองศพริมบ่อขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ หมู่3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : มือฆ่าโหด2ศพทิ้งบ่อขยะสารภาพทำเพียงคนเดียว แค้นผู้ตายข่มขืนเมียจนเสียสติ)
ล่าสุดเมื่อเวลา11.00น. พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าย รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มาชา แก้วทอง รองผกก.ป พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนและฝ่ายปราบปรามทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 30 นาย
ได้ควบคุมตัว นายวิรัตน์ แก้วทองพันธ์ หรือแวว อายุ35 ปี ผู้ต้องหาออกจากห้องขังสภ.หาดใหญ่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพขั้นตอนการก่อเหตุอย่างละเอียดรวม4 จุด โดยการนำตัวไปทำแผนมีการปิดเป็นความลับสูงสุด เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการทำแผน โดยเฉพาะญาติของผู้เสียชีวิตที่อาจจะโกรธแค้น
โดยเหตุการณ์ฆ่าเผาสองศพเกิดขึ้นเมื่อประมาณเวลา 9 โมงเช้า ของวันที่24 พฤษภาคม จุดแรกได้นำตัวไปทำแผนที่บ้านพักของ นายวิรัตน์ เลขที่73 หมู่4 ต.ควนลัง ซึ่งเป็นจุดที่ใช้อาวุธปืนยิง นายอนุชา สุภานิตย์ อายุ 27 ปี หรือปูน และนายประเสริฐ ธรรมรักษา อายุ 20 ปี หรือบอย จนเสียชีวิต
ซึ่งจุดที่ลงมือยิงอยู่บริเวณหลังบ้าน ขณะที่ นายอนุชา และนายประเสริฐ นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนและนายวิรัตน์ ถามเรื่องที่ทั้งสองคนไปข่มขืนเมียซึ่งทำสองคนก็ยอมรับ จึงไปหยิบอาวุธปืนที่ซ่อนไว้ในห้องน้ำหลังบ้าน ออกมากระหน่ำยิงทั้งสองคนพร้อมๆกัน จำนวน 3 นัด จนกระเด็นตกจากเก้าอี้ม้าหินอ่อนมากองกับพื้นทั้งสองคน ซึ่งก็ตรงกับจุดที่พบคราบเลือดในวันที่ตำรวจไปตรวจค้นที่บ้านวันแรก และขณะที่ยิงก็มีน.ส.โอ๋ ภรรยาของนายวิรัตน์ อยู่ในบ้านด้วย และยังเดินออกมาใช้เท้าเขี่ยร่างของทั้งสองคนเพื่อดูว่าตายแล้วหรือไม่
จากนั้นจึงอุ้มร่างทั้งสองคนขึ้นรถกระบะ โตโยต้ารีโว่ สีดำ สี่ประตู หมายเลขทะเบียน ขว 900 สงขลา โดยใช้เบาะลมห่อร่างทั้งสองคนไว้ท้ายรถกระบะ และนำโทรศัพท์มือถือไปเผาทำลายที่หน้าคอกวัวหลังบ้าน นอกจากนี้ที่บริเวณหลังบ้านยังพบจุดที่นายวิรัตน์ ซ้อมยิงปืนโดยใช้ผนังคอกสัตว์เก่าในการซ้อมยิงมีกระสุนปืนเป็นรูพรุน
จากนั้นได้ควบคุมตัว นายวิรัตน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่สองซึ่งเป็นจุดที่นำศพไปเผาทิ้งข้างบ่อขยะพื้นที่หมู่3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร
โดยนายวิรัตน์ ได้ถอยรถกระบะเข้าไปในชายป่าและลากร่างทั้งสองคนลงมากองรวมกันและใช้ท่อนไม้สุมร่างและเบาะลมห่อหุ้มร่าง แต่ก่อนที่จะจุดไฟเผาปรากฏว่า นายอนุชา หรือปูน ยังไม่เสียชีวิตและสะดุ้งตัวขึ้นมา 1ครั้ง นายวิรัตน์ จึงได้ใช้ท่อนไม้ขนาดใหญ่ตีไปที่ศรีษะซ้ำอีกหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิต และใช้ไฟแช็คจุดไฟเผา และขับรถออกมาแต่กันชนรถได้บนชนกับก้อนหินเสียหายด้วย
ส่วนจุดที่ 3 เป็นจุดที่ขับรถออกมาจากจุดที่เผาขึ้นมาบนถนนอนุสรณ์ 200 ปี และผ่านกล้องวงจรปิดที่หน้าบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งที่จับภาพรถกระบะเอาไว้ได้ ซึ่งอยู่ห่างจุดที่เผาศพออกมาประมาณ 300 เมตร
ส่วนจุดที่4 เป็นจุดที่ขับรถยนต์กระบะไปถอดฝาครอบกระบะท้ายที่เปื้อนเลือด รวมทั้งถอดกันชนหน้าที่ชนก้อนหินเสียหายแล้วจุดไฟเผา ซึ่งอยู่บริเวณคอกเลี้ยงหมูกลางทุ่งนาของญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านหูแร่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ ซึ่งจุดนี้อยู่ห่างจากจุดที่นำศพไปเผา ประมาณ 10 กิโลเมตร
ซึ่งการทำแผนผ่านไปด้วยความเรียบร้อย โดยใช้เวลาเกือบ3 ชั่วโมงโดยไม่มีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากชาวบ้านแทบไม่มีใครรู้เรื่องว่ามีการนำตัวไปทำแผน และเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี ที่สำคัญนายวิรัตน์ ให้ความร่วมมือทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
หลังทำแผนเสร็จผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสอบถามความรู้สึกของนายวิรัตน์ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยตอบเพียงสั้นๆว่า ยังรู้สึกแค้นผู้ตายและเพื่อนที่ข่มขืนภรรยาของตน และยังบอกไม่ได้ว่าหากยังไม่ถูกจับกุมจะมีใครเสียชีวิตเพิ่มเติมอีกหรือไม่ จากกรณีที่ร่วมกันข่มขืนเมียตน หลังทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายวิรัตน์ ไปควบคุมตัวที่สภ.หาดใหญ่ ทันทีเพื่อรอฝากขังที่ศาลจ.สงขลา ในวันพรุ่งนี้