อีสานตอนกลางเฮ
หลังฝนตกต่อเนื่อง
เติมน้ำ3เขื่อนใหญ่
รวม46ล้านลบ.ม.
หลังพายุฝนตกต่อเนื่อง กรมชลประทาน เร่งกักเก็บน้ำช่วงฤดูฝน พบอีสานตอนกลาง 5 จังหวัด น้ำไหลเข้าเขื่อนใหญ่ 3 แห่ง รวม 46.51 ล้าน ลบ.ม.เตือนชาวนาใช้น้ำประหยัด หวั่นเกิดฝนทิ้งช่วงมิย.-ก.ค.นี้ ด้าน ปภ.สรุปพายุถล่ม12จังหวัด
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้วางมาตรการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนปี 2563 ให้เน้นกักเก็บน้ำเพื่อจัดสรรให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งระยะนี้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง มีฝนตกหลายพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 18-27 พฤษภาคม ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ประมาณ 46.54 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ทำให้เขื่อนขนาดใหญ่ 3 แห่ง มีปริมาณน้ำรวม 1,027 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุอ่างฯ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ สะสม รวม 34.26 ล้าน ลบ.ม.แบ่งเป็นเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีปริมาณน้ำไหลเข้า 11.35 ล้าน ลบ.ม.เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำไหลเข้า 22.03 ล้าน ลบ.ม.และเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ มีน้ำไหลเข้า 0.88 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 69 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จ.ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 109 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุอ่างฯ รวมน้ำไหลเข้าสะสม ตั้งแต่วันที่ 18-27 พฤษภาคม รวม 12.28 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งฝนที่ตกลงมาไม่มีรายงานพื้นที่ถูกน้ำท่วมขังเสียหาย มีเพียงพื้นที่ที่น้ำขัง เช่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น ส่งผลให้เกิดน้ำขังในที่ลุ่มต่ำ สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และเร่งสูบน้ำระบายออกแล้ว
อย่างไรก็ดี แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยา จะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว อีกทั้งหลายพื้นที่มีฝนตกพอสมควร แต่ประมาณเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ฝนอาจจะน้อย หรือเกิดภาวะทิ้งช่วงได้ จึงขอให้เกษตรกรเริ่มทำการเพาะปลูกเมื่อเห็นว่ามีปริมาณฝนตกชุกหรือมีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับทำการเกษตร
ด้าน นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยพบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 23 อำเภอ 48 ตำบล 82 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 383 หลัง ผู้เสียชีวิต 2 ราย (อำนาจเจริญ,นครสวรรค์)
สำหรับพื้นที่ทั้ง 12 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ จ.พิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ จ.อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และนครราชสีมา และภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ ชัยนาท และสระบุรี ปัจจุบันสถานการณ์ภัยคลี่คลายแล้ว ทั้งนี้ ปภ.ได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี