แห่ลงทะเบียน10,878คน
ขอกลับไทย
รอคิวยาวถึง30มิถุนายน
อั้นรับได้วันละ400ราย
ศบค.ชุดใหญ่เคาะเฟส3
เคอร์ฟิวห้าทุ่มถึงตีสาม
ศบค.แถลงไทยติดเชื้อเพิ่ม 11 ราย ในที่กักตัวของรัฐ กลับจากอินเดีย-คูเวต อีโอซีจับตาหลังผู้ป่วยที่พบมาจากต่างประเทศ-ไม่แสดงอาการ เร่งตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงต่อเนื่อง แนะใครป่วยคล้ายหวัด-จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส รีบไปตรวจ ได้เลย คนไทยลงทะเบียนขอกลับประเทศถึงสิ้นมิถุนายนมากถึง 10,878 ราย โควตารับได้วันละ 400 คน
นายกฯเรียกถกศบค.ชุดเล็ก หารือผลประชุมกก.เฉพาะกิจฯ ผ่อนปรนระยะ3 ก่อนชงเข้าศบค.ชุดใหญ่เคาะศุกร์นี้ คาดลดเวลาเคอร์ฟิว 1 ชั่วโมงจากห้าทุ่มถึงตีสาม ขยายเวลาเปิดห้างถึง 21. 00น.ไฟเขียวนั่งกินข้าวได้เป็นกลุ่มไม่เกิน4-6คน นวดไทยเตรียมเฮได้เปิดบริการ ไฟเขียวจัดแสดงสินค้าพื้นที่ไม่เกิน 2 หมื่นตร.ม.เสริมสวยทำสีผมได้แล้วแต่ในเวลาจำกัด เลขาฯสมช.ระบุนายกฯอยากให้เปิดมากที่สุด แต่ยิ่งเสี่ยงมากต้องติดตามใกล้ชิด เคร่งครัด 5มาตรการสกัดโควิด-19 คาดสิ้นเดือนมิย.ปลดล็อคทั้งหมด
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 11 ราย ทั้งหมดอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,065 ราย หายป่วยเพิ่มเติม 14 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสม 2,945 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 63 ราย ไม่มีรายงานเสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงที่ 57 ราย
ป่วยใหม่11กลับจากอินเดีย-คูเวต
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 11 รายนั้น ทั้งหมดเดินทางกลับจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ แบ่งเป็น 3 กลุ่มได้แก่ 1.หญิงไทย อายุ 32 ปี 1 ราย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาจากอินเดียเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เข้าพักในสถานกักตัวของรัฐที่ จ.สมุทรปราการ ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม โดยไม่มีอาการป่วย และเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในจ.สมุทรปราการ
จับตารายใหม่ส่วนใหญ่พนง.นวด
กลุ่มที่ 2 มี 6 ราย แบ่งเป็นชาย 5 ราย เป็นพนักงานนวด และหญิง 1 ราย เป็นแม่บ้าน เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เข้าพักในสถานกักตัวของรัฐที่ กทม. ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ซึ่ง 3 ใน 6 ราย มีอาการลิ้นรับรสไม่ได้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ จมูกไม่ได้กลิ่น เจ็บคอ มีเสมะ อีก 3 รายไม่มีอาการ ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (อีโอซี) วิเคราะห์กรณีพบเชื้อในกลุ่มพนักงานนวดที่เดินทางกลับมาจำนวนมากว่า ยังไม่อยากให้มีการสรุปว่าพนักงานนวดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ แต่อาจเกี่ยวกับที่อยู่ หรือเดินทางไปชุมชน เรายังไม่รู้ กระบวนการสอบสวนโรคต้องมีมากกว่าซักประวัติ ไม่อยากให้รีบเหมารวม โดยอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพระบุว่า เหตุในต่างประเทศเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การนวดเพื่อรักษานั้นไทยมีมาตรการที่กำหนดไว้สูงอยู่แล้ว ส่วนนวดผ่อนคลายต้องทำร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งสธ.ต้องรีบบอกก่อน เพราะเดี๋ยวจะไปเชื่อมโยงกับกิจการ/กิจกรรมที่กำลังจะเปิดของไทย
ป่วยคล้ายหวัดไม่ได้กลิ่นไปตรวจ
กลุ่มที่ 3 เป็นชายไทย 4 ราย ทำงานอยู่ในแคมป์ของบริษัทต่างชาติ เดินทางกลับจากมาจากคูเวตเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พักอยู่ในสถานกักตัวของรัฐที่กทม. ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม มีอาการปวดศีรษะ จมูกไม่ได้กลิ่น มีไข้ มีน้ำมูก เข้ารักษาที่โรงพยาบาลใน กทม. ถ้าประชาชนคนใดรู้สึกว่าจมูกไม่ได้กลิ่น และไปสถานที่ชุมชนมา รวมถึงบุคคลที่มีอาการคล้ายไข้หวัด หรือประวัติเคยมีไข้ หากสงสัยไปขอตรวจได้เลย ยิ่งมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ยิ่งต้องไปตรวจ
“อย่างไรก็ตาม หลายวันตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ สำหรับตัวเลขผู้ป่วยสะสม 3,065 รายของไทยนั้น แบ่งเป็นผู้ที่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ 621 ราย หรือ 20.26% และติดเชื้อภายในประเทศ 2,444 ราย หรือ 79.74%”นพ.ทวีศิลป์กล่าว
รอฟังศบค.เคาะผ่อนเฟส3ศุกร์นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีข่าวกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง และถูกจัดให้อยู่ในระยะที่ 4 จะได้รับการผ่อนปรนในระยะที่ 3 มีกรอบพิจารณาอย่างไร และสนามมวย ร้านนวด จะเปิดได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป จนกว่าจะประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานวันที่ 29 พฤษภาคม ตอนนี้คิดกันอยู่ แต่ถือว่าเจ้าของกิจการที่มีความเสี่ยงสูงตื่นตัวกันดี ซึ่งต้องเสนอตัวเองขึ้นมา เพื่อให้สังคมรับฟังว่าผู้ให้บริการจะมีวิธีการ แนวทาง และมาตรการอย่างไรให้ผู้ใช้บริการมั่นใจว่าเมื่อเป็นกิจการที่มีความเสี่ยงแล้วจะไม่เกิดการระบาดอีกรอบ ส่วนสนามมวย ร้านนวด ยังไม่มีข้อสรุป อาจเป็นเพียงข่าว แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน
ลุ้นร้านในห้าง-ซ้อมกีฬา-ลดเคอร์ฟิว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ที่พอจะบอกได้คือ กลุ่มก้อนกว้างๆ คือ 1.ร้านรวงต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า ที่มีระบบดูแลที่ดี 2.กีฬา ซึ่งพยายามจะเปิดให้มากขึ้น โดยเฉพาะการซ้อมของนักกีฬา 3.เคอร์ฟิว มีแนวโน้มลดเวลาลงแน่ แต่เท่าไรให้รอที่ประชุม ศบค.วันที่ 29 พฤษภาคม และ4.กิจการใดที่จะได้รับการผ่อนปรนระยะที่ 3 ต้องลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะทั้งหมด รวมถึงผู้ใช้บริการก็ต้องเช็กอินเช็กเอาท์ผ่านแอพฯดังกล่าว เพราะกิจการระยะที่ 3 นี้มีความเสี่ยงในเกณฑ์ปานกลางถึงสูงทั้งสิ้น ส่วนกิจการ/กิจกรรมที่เสี่ยงสูงมากขึ้นอยู่ที่ประชุม ศบค.วันที่ 29 พฤษภาคมจะพิจารณา ซึ่ง ผอ.ศบค.บอกว่าจะพยายามเปิดให้มากที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับการติดตามแบบนี้
ตรวจหาเชื้อ4กลุ่มเสี่ยงแสนตัวอย่าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มีแต่ผู้ติดเชื้อในสถานกักตัวของรัฐ แสดงว่าสบายใจได้แล้วหรือไม่ ที่ไม่มีคนติดเชื้อในประเทศ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เราภูมิใจที่ตัวเลขติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ แต่ผู้ที่กลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งไม่มีอาการ แต่เราตรวจพบเชื้อ เรื่องนี้ได้พูดคุยกันในที่ประชุมอีโอซีว่า หากทำให้มั่นใจต้องเข้าไปตรวจเพิ่มเติม แม้วันนี้ตรวจไปได้ 3 แสนกว่าตัวอย่าง ยังไม่พอใจ ต้องเฝ้าระวังโรค และค้นหาการติดเชื้อในประชาชนและสถานที่เสี่ยง จำแนกได้ 4 กลุ่ม ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ต้องขังแรกรับ กลุ่มอาชีพที่พบปะผู้คนจำนวนมาก และกลุ่มอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา เช่น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง บุคคลในชุมชมแออัด บุคคลในโรงงาน บุคคลที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง เจ้าหน้าที่เรือนจำ บุคคลในร้านอาหารที่ต้องสุ่มตรวจ บุคคลในโรงเรียน ตั้งเป้าไว้เกือบ 1 แสนตัวอย่างใน 77 จังหวัด เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และขอฝากบบุคคลกลุ่มอื่น ที่ระบุไว้ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่รับการตรวจ เป็นมาตรการป้องกันโรคที่ให้ความมั่นใจได้สูงจริงๆ
นับหมื่นต่อคิวกลับ-รับได้400/วัน
ถามต่อถึงจำนวนประชาชนที่แจ้งความประสงค์เดินทางกลับไทย นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขณะนี้เรารองรับได้ 400 คนต่อวันเฉพาะการเดินทางทางอากาศ ระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม- 30 มิถุนายน มีคนที่ลงทะเบียนประสงค์จะเดินทางกลับ 10,878 คน ยืนยืนว่าเราพร้อมดูแล ส่วนเกณฑ์จัดลำดับก่อน-หลังนั้น แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1.ด่วนที่สุดเป็น ผู้ป่วย ผู้ตกค้างสนามบิน วีซ่าหมดอายุ จะได้เข้ามาก่อน 2.กลุ่มด่วนมากคือ พระสงฆ์ นักเรียน นักศึกษา และ3.คนตกงาน
นายกฯถกศบค.ชุดเล็กคลายเฟส3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรียกประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19)หรือ ศบค. ชุดเล็ก เพื่อหารือแนวทางผ่อนปรนระยะ 3 และการลดเวลาเคอร์ฟิวเพิ่มเติม หลังที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ ที่มีพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธานได้ประชุมและพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการรป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนกิจกรรมกิจการที่จะผ่อนปรน รวมถึงแนวโน้มที่จะลดเวลาเคอร์ฟิวเพิ่มอีก 1 ชั่วโมง ก่อนเคาะสรุป ส่งศบค. ชุดใหญ่วันที่ 29 พฤษภาคม
สำหรับบุคคลที่มาร่วมประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย เลขาฯสมช. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค โดยใช้เวลาหารือประมาณ 40 นาที
ลุ้นลดเคอร์ฟิว1ชม.-เปิดกิจการเพิ่ม
หลังหารือ พล.อ.สมศักดิ์เปิดเผยว่า ได้นำข้อสรุปของที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าหารือกับนายกฯ เพื่อนำข้อสรุปในที่ประชุมดังกล่าวเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 29 พฤษภาคม ซึ่งการผ่อนคลายมาตรการป้องกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ระยะที่ 3 ให้กิจการและกิจกรรมสามารถดำเนินการได้ โดยจะเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาผ่อนคลายวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้ประชาชนดำเนินกิจกรรมได้มากขึ้น ทั้งในส่วนกิจการกิจกรรมที่ผ่อนคลายไปแล้วบางส่วน และจะผ่อนคลายเพิ่มเติมบางกิจการ กิจกรรมที่ยังไม่ได้รับการผ่อนคลายใน 2 ระยะ เพื่อหาข้อสรุปว่ากิจการและกิจกรรมใดบ้างจะได้รับการผ่อนคลาย นอกจากนั้น เสนอให้พิจารณาปรับลดเวลาเคอร์ฟิวลง 1 ชั่วโมง เพื่อผ่อนคลายมากขึ้น
ย้ำยิ่งกิจการเสี่ยงสูงต้องคุมเข้ม
เลขาฯสมช.กล่าวด้วยว่า ข้อมูลและความเห็นของการประชุมของคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ที่จะเสนอศบค.ชุดใหญ่นั้น เป็นกลุ่มกิจกรรมกิจการที่เสี่ยงสูง ต้องเสนอข้อมูล ความเห็นและพิจารณาด้วยความรอบคอบ ขณะเดียวกันขอย้ำให้ประชาชนป้องกันตนเองตามมาตรการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย อย่างเคร่งครัดยิ่งขึ้น เพราะยิ่งผ่อนคลายยิ่งต้องดูแลและปฏิบัติตามมาตรการให้เข้มข้นไม่ละหลวม โดยเฉพาะต้องใช้แอพพลิเคชั่นติดตาม เฝ้าระวังมากขึ้นตามไป ด้วย
โรงหนัง-นวดได้เฮ-กวดวิชารอลุ้น
“สำหรับกิจการ กิจกรรมที่คาดว่าจะได้รับการผ่อนคลายระยะที่ 3 จะเป็นการผ่อนคลายเพิ่มเติมจากที่ผ่อนคลายไป 2 ระยะ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ซึ่งอาจขยายผ่อนคลายโรงภาพยนตร์ นวดแผนโบราณ ที่ต้องปรับรูปแบบให้บริการ ผ่อนคลายการเดินทางไปต่างจังหวัดของประชาชน ขณะที่โรงเรียนกวดวิชา สวนน้ำ สวนสนุก อาจยังต้องรอและพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะเป็นกลุ่มกิจกรรมกิจการมีความเสี่ยงอยู่ ทั้งหมดรอความชัดเจน อีกครั้งวันที่ 29 พฤษภาคม และคาดว่าทุกประเภทกิจการ กิจกรรมจะได้รับการผ่อนคลายหมดภายในเดือนมิถุนายน” พล.อ.สมศักดิ์ กล่าว
ลดเคอร์ฟิว5ทุ่ม-ตี3ห้างเปิดถึง3ทุ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบฯถึงการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการระยะ 3 ในกิจการกิจกรรมต่างๆ ของคณะกรรมการเฉพาะกิจฯที่มีเลขาฯสมช.เป็นประธาน ซึ่งหารือไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมและรายงานที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กที่มีนายกฯเป็นประธานไปแล้ว มีรายละเอียดการผ่อนปรนมาตรการระยะ 3 เบื้องต้น จะปรับลดเวลาเคอร์ฟิว ทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร จากเดิมเวลา 23.00-04.00 น. เป็น 23.00-03.00 น. การปรับเวลาปิดห้างสรรพสินค้า จากเดิมให้ปิดเวลา 20.00 น. มาเป็น 21.00 น. โดยจะมีร้านค้าภายในห้างฯ ที่จะได้กลับมาเปิดบริการเพิ่มเติม รวมถึงอนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารภายในร้าน สำหรับกลุ่มที่มาด้วยกัน ตั้งแต่ 4-6 คน
นวดไทยได้เฮ-เสริมสวยให้ทำสีได้
นอกจากนั้น จะอนุญาตให้ร้านนวดแผนไทยกลับมาเปิดกิจการได้ ขณะเดียวกัน ร้านตัดผม จากเดิมผ่อนปรนระยะ 2 อนุญาตผู้ประกอบการให้บริการเฉพาะ ตัด สระ ซอย แต่งผมนั้น ในระยะต่อไป จะอนุญาตเพิ่มเติมให้ทำสีผมได้ ภายในเวลาที่กำหนด รวมถึงให้จัดงานแสดงสินค้า ในพื้นที่ไม่เกิน 2 หมื่นตารางเมตร เพื่อให้ธุรกิจหรือโรงแรมเดินต่อไปได้ ในส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ มวย รวมถึงกิจการหรือกิจกรรมที่เสี่ยงแพร่ระบาดสูงนั้น ยังต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
นายกฯเช็คอินสภาฯลดเคอร์ฟิวให้รอ
ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินวันที่ 2 โดยทันทีที่มาถึง นายกฯได้แสกน QR Code รัฐสภาจริงใจปลอดภัยไร้โควิด เพื่อบันทึกประวัติการเข้าออกอาคารสภาผู้แทนราษฎรทุกคน โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปฏิบัติตามระเบียบทุกประการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เลขาฯสมช.นำข้อสรุปของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เรื่องปรับลดเวลาเคอร์ฟิวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า ให้รอดูพรุ่งนี้
เล็งใช้โมเดล3จชต.เยียวยาวัดพิษโควิด
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการคลายล็อกระยะที่ 3ว่า จะมีกิจการและกิจกรรมใดบ้างได้รับการผ่อนคลายเพิ่มเติม ต้องรอประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 29 พฤษภาคม
ยืนยันรัฐบาลดูแลทุกภาคส่วน แต่ถ้าเปิดบางส่วนแล้ว มีการแพร่ระบาดระลอก 2 ขึ้นมา ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเราก็กลัว ซึ่งกิจการนวดมีการสัมผัสตัว แต่ก็เข้าใจความเดือดร้อนของผู้ประกอบกิจการนวด ส่วนการพิจารณาผ่อนปรนการจัดกิจกรรมของวัด เนื่องจากใกล้วันเข้าพรรษานั้น ต้องรอดูใกล้ๆ หากสามารถจัดการในบริเวณวัดให้นั่งห่างกัน จะลองปรึกษาในที่ประชุมศบค.ว่าพอจะให้มีกิจกรรมภายในวัดได้หรือไม่ จริงแล้วตอนนี้ทุกวัดไม่มีคนเข้าไปทำบุญ เพราะวัดงดจัดกิจกรรมทุกอย่าง และบางวัดเริ่มไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ส่วนการพิจารณาเยียวยาวัดที่ได้รับผลกระทบนั้น กำลังพิจารณาอยู่ ตัวอย่างในปี 2552 ตอนนั้นพระใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บิณฑบาตไม่ได้ เพราะมีเหตุการณ์ยิงพระ ครม.ให้ค่าบิณฑบาตและค่าอาหารพระวันละ 100 บาทต่อ 1 รูป จึงจะใช้โมเดลนี้ในการคิดเรื่องเยียวยา ตนทำเรื่องเสนอกระทรวงการคลังแล้ว โดยสำนักพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้มีวัดทั้งหมดกว่า 4 หมื่นวัด และพระเกือบ 3 แสนรูปที่เดือดร้อน คาดว่าใช้งบประมาณตกเดือนละ 400-500 ล้าน โดยจะให้เงินแต่ละวัดไปบริหารจัดการเองตามจำนวนพระที่มี ยืนยันไม่ได้ปิดวัด แต่นักท่องเที่ยวไม่มี และวัดไม่ได้จัดกิจกรรมจึงมีคนเข้าวัดน้อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี