“สธ.” หวั่นรีล็อก! ห่วงประชาชนการ์ดตกหลังรัฐผ่อนคลายระยะ 3 อาจเสี่ยงสูงเกิด wave2 ชี้โรงเรียนเปิดบรรจบสถานประกอบการผ่อนคลาย และคนเที่ยวจะนำเชื้อติดที่บ้าน วอนคลายล็อกสำเร็จหรือไม่ขึ้นกับวินัยใหม่ของคนไทยทุกคน
1 มิถุนายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เมื่อรัฐมีการผ่อนคลายระยะ 3 แต่ห้ามคนจากต่างประเทศเดินทางเข้า โดยยังคงควบคุมการเดินทางในราชอาณาจักร ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ แต่ขยายเวลาเคอร์ฟิว เป็นเวลา 23.00-03.00 น. ให้สามารถเดินทางข้ามจังหวัด แต่สามารถตั้งด่านคัดกรองวัดไข้ ให้เปิดห้างได้ถึง 21.00 น.
ส่วนสถานประกอบจะต้องควบคุมความสะอาด มาตรการระยะห่างจะถูกประเมินตามขนาดตารางเมตร กำหนด 1 คน ต่อ 4-5 ตารางเมตร ซึ่งลงทะเบียน “ไทยชนะ” จะควบคุมจำนวนคนเข้าออก และเมื่ออยู่ข้างในห่าง 1 เมตร ตามข้อกำหนดควบคุมห้างสรรพสินค้ายูนิตี้มอลล์ ส่วนสปายังเว้นใบหน้า ตั้งแต่คอลงไป
ขณะที่พระเครื่องยังห้ามการจัดงานมหกรรม ประเภทเสริมสวยทำได้ทุกอย่าง แต่ห้ามใช้เวลาเกิน 2 ชั่วโมง (ชม.) ส่วนกีฬาให้ซ้อมได้และห้ามเกิน 10 คน ห้ามเอาคนมารวมกันแออัด ห้ามไม่ให้มีการแข่งขัน สำหรับสถานศูนย์ดูแลเด็กเล็กเปิดเฉพาะในส่วนที่ให้เด็กที่มีฐานะยากจนมารับอาหารเท่านั้น ในส่วนของโรงภาพยนตร์ให้จุคนได้แค่ 200 คน ที่นั่ง 2 คน เว้น 2 คน และห้ามนำเครื่องดื่ม ป๊อปคอร์น นำเข้าไปในโรงหนัง เป็นต้น
นพ.บัญชา กล่าวอีกว่า ปัจจัย 3 สถานการณ์เสี่ยงที่จะทำให้ถูกรีล็อกอีก ได้แก่ 1.พฤติกรรมประชาชนคนไทยในการสวมหน้ากากอนามัย 2.ผู้ประกอบการทำตามมาตรการของรัฐในการคัดกรองคน วัดไข้ จัดวางเจลแอลกอฮอล์เตรียมจุดต่างๆ 3.ข้อมูลการควบคุมโรค ซึ่งมีการติดตามจากโรงพยาบาล ทั้งนี้ ประชาชนการ์ดตกไม่สวมหน้ากากอนามัย มือไม่ล้างบ่อยๆ เข้าอยู่ในที่แออัดซึ่งอันตรายสัมผัสเสี่ยงสูง ขณะที่ผู้ประกอบการย่อหย่อน ขาดความเข้มข้นในการจัดการเรื่องคัดกรอง ภายในห้างไม่กำกับระยะห่าง ซึ่งหากประชาชนและผู้ประกอบการต่างการ์ดตกก็จะเข้าสู่สถานการณ์โรคคลื่นลูกที่ 2 ก็จะทำให้กลับมาล็อกประเทศอีกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม พบว่า เมื่อรัฐมีการผ่อนปรนการล็อกดาวน์นั้น ประชาชนก็เริ่มการ์ดตก ซึ่งจะทำให้ มีความเสี่ยงสูง โดยจากข้อมูลการปฏิบัติผู้ประกอบการ พบว่า ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ 81 แห่ง ผ่านเกณฑ์ 90% ในส่วนร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ 1 ใน 4 มีปัญหา ขณะที่ร้านเสริมสวยบุรุษ สตรีส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรการรัฐได้ดี แต่จำนวน 1 ใน 6 ที่มีปัญหา
“ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ จากการที่กรมอนามัยให้หลายโรงเรียนทดสอบรายการที่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำสาธารณสุข พบว่า จำนวนมากครึ่งต่อครึ่งที่มีปัญหา ดังนั้นหากมีการเปิดโรงเรียนจริงและสถานประกอบการที่ได้รับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เมื่อ 2 ปรากฏการณ์เกิดขึ้นก็จะเสี่ยงสูง เมื่อคนที่บ้านไปเที่ยวกลับมาพ่อบ้าน พี่เอาเชื้อมาคิดคนในบ้าน ติดน้องที่ไปโรงเรียน และน้องก็เอาเชื้อไปติดเชื้อแพร่ต่อคนครอบครัวอื่น ทุกคนคือการชี้ชะตาประเทศไทย คลายล็อกสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับวินัยใหม่ของคนไทยทุกคน ร่วมกันป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจายในกิจการ บ้าน และโรงเรียน” นพ.บัญชา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี