ไทยพบผู้รายใหม่ 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย โพล สธ.พบ ปชช.การ์ดตกชัดเจน วอนขยับให้ได้ 90% เพื่อเข้าสู่ระยะที่ 4
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 มิถุนายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ เพศชาย อายุ 32 ปี เป็นนักศึกษาเดินทางกลับมาจากซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ เริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 30 พ.ค.มีไข้ 37.5 องศา มีน้ำมูก และวันที่ 31 พ.ค.ตรวจอีกครั้ง พบเชื้อเป็นโควิด-19 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากซาอุดิอาระเบียผ่านทางด่านปาดังเบซาร์ 8 ราย จาก 39 ราย
ส่งผลให้ปัจจุบันมีผู้ป่วยสะสม 3,083 ราย หายป่วยสะสม 2,966 มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 80 ปี มีโรคประจำตัวหอบหืด เข้าผ่าตัดสะโพกที่โรงพยาบาลสุไหง-โกลก วันที่ 28 เม.ย.ซึ่งไม่มีอาการที่จำเป็นต้อโควิด-19 ต่อมาวันที่ 1 - 2 พ.ค.เข้าพักฟื้นที่หอพักผู้ป่วยพิเศษ และได้ไปสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่มีผลยืนยัน แต่พอยืนยันแล้วว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ก็นำคนดังกล่าวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอื่น ซึ่งจากการสอบสวนโรค ผู้เสียชีวิตยังได้สัมผัสกับลูกสาวและลูกเขยซึ่งติดเชื้อโควิด-19 ด้วย อย่างไรก็ตามวันที่ 9 พ.ค.ชายคนดังกล่าวมีระดับออกซิเจนลดลง จึงนำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยรับพลาสม่าเป็นระยะๆ จนวันที่ 25 พ.ค.ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ อาการแย่ลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตลงในวันที่ 1 มิ.ย.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 6,366,197 ราย เสียชีวิต 377,437 ราย ส่วนข่าวต่างประเทศที่น่าสนใจ นักวิทยาศาสตร์จีนเปิดเผยว่า วัคซีนที่ทำการทดลองอยู่ขณะนี้มีประสิทธิภาพสูงถึง 99% โดยได้ทำการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ระยะที่ 2 กับอาสาสมัคร 1,000 คน เบื้องต้นได้มีการทดลองวัคซีนในระยะที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการทดลองทั้งหมดในสหราชอาณาจักร ตอนนี้กำลังก่อสร้างโรงงานเชิงพาณิชย์ในกรุงปักกิ่ง เพื่อรองรับการผลิตและกระจายวัคซีน 1 ร้อยล้านโดส ไปสู่ประชาชน โดยจะนำไปรักษาประชาชนในประเทศก่อนที่จะส่งออกนอกประเทศ ขณะที่ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในชุมชน ซึ่งถือเป็นการติดเชื้อครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.ส่วนที่คิตะคิวชู ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น พบผู้ติดชื้อต่อเนื่อง 9 วัน รวม 97 ราย โดยมี 34 ราย ที่ไม่สามารถสืบที่มาได้ จนต้องออกมาตรการหลีกเลี่ยง 3 ซี คือ สถานปิด การแออัด และการพูดคุยระยะใกล้ชิด นอกจากนี้ ในวันที่ 2 มิ.ย.จะมีคนไทยเดินทางกลับประเทศ 3 เที่ยวบิน 450 คน และวันที่ 3 มิ.ย.อีก 3 เที่ยวบิน 427 คน
เมื่อถามว่า ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ เพราะปัจจุบันไม่มีการค้นหาในเชิงรุกแล้วหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรายังมีความกังวลใจว่าจะมีผู้ติดเชื้อในประเทศหรือไม่ระหว่างที่การผ่อนปรนในระยะที่ 3 ซึ่ง กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เอาตัวเลขมาเทียบเคียงแบบรายวัน และตอนนี้ยังมีการเฝ้าระวังโรคและค้นหาการติดเชื้อในประชากรเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยง ซึ่งตั้งเป้าไว้ 100,000 ตัวอย่าง โดย 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดำเนินการไปได้แล้วถึง 32,568 ตัวอย่าง และยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ ยืนยันว่าเรายังตรวจเรื่อยๆ
เมื่อถามว่า มีเสียงสะท้อนว่าขณะนี้การ์ดเริ่มตก ศบค.ได้ติดตามพฤติกรรมการป้องกันตัวของประชาชนหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สธ.ได้ร่วมกับองค์การอนามัยโลก , มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ทำการสำรวจประชาชนใน 3 กลุ่ม คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) การสอบถามประชนทางระบบออนไลน์ และทางโทรศัพท์ พบว่า ภาพรวมในการป้องกันตัวเองของ อสม.ดีที่สุด อยู่ที่ 87.2% รองลงมาคือ ประชาชนที่สอบถามผ่านทางระบบออนไลน์ 74.8% ส่วนการสอบถามประชาชนผ่านโทรศัพท์อยู่ที่ 72.7% ซึ่งมาตรการป้องกันตัวเอง 90% ถึงจะดีที่สุด ถ้า 80% ก็พอไปได้ แต่ถ้าร่วมมือแค่ 70% แทบจะไม่ช่วยอะไร เรียกว่าการ์ดตกเลย จึงต้องทำให้อยู่ที่ 80 - 90% และถ้าไปเปรียบเทียบกับเดือน เม.ย.ผลก็ออกว่า ทุกคนทำน้อยลง ต้องฝากไว้ว่าเรื่องนี้สำคัญ ยิ่งเราอยากได้อิสระ เราต้องการ์ดไม่ตก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ย้ำว่า การ์ดต้องไม่ตก ต้องอยู่ห่าง ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ คือสิ่งที่ทำให้เราปลอดโรคและปลอดภัย และเข้าสู่ระยะที่ 4 โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการประชุมเตรียมมาตรการไว้สำหรับการผ่อนคลายในระยะที่ 4 ไว้แล้ว เพื่อเราจะได้ขยับไปสู่มาตรการระยะที่ 4 ด้วยกัน ดังนั้น ต้องมีสติตลอดเวลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี