สืบพยานโจทก์"บรรยิน"ฆาตกรรมอำพราง"เสี่ยจืด" หลังศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งจำคุก8ปี คดีโกงหุ้นเสี่ยจืดร่วม300ล้าน เลื่อนสืบพยานอีก4ปาก9มิ.ย. ผบช.น.เน้นดูแลเข้มทุกนัด
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 2 มิภุนายน 2563 ที่ศาลอาญาพระโขนง ถนนสรรพาวุธ ศาลนัดสืบพยานโจทก์คดีหมายเลขดำ อ.4915/2559 ที่ นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมูลค่านับหมื่นล้าน กับพวก และอัยการศาลอาญาพระโขนง รวม 5 คน ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์หลายสมัย เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้
สืบเนื่องจากกรณีเมื่อปี 2558 นายชูวงษ์ วัย 50 ปีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเลกซัสสีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม.ของนายชูวงษ์ชนต้นไม้ โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีนายชูวงษ์นั่งข้างๆ และรถยนต์ เสียหลักชนต้นไม้ ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.เป็นเหตุให้นายชูวงษ์ ถึงแก่ความตาย เบื้องต้นพนักงานอัยการคดีศาลอาญาพระโขนง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังนางศิริรัตน์ ภรรยานายชูวงษ์ กับพวกได้มอบหมายทนายความเป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน เอง ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ พ.ต.ท.บรรยิน ให้การปฏิเสธ อ้างว่า เหตุการณ์เสียชีวิตของนายชูวงษ์ ้เกิดจากอุบัติเหตุ โดยตนมิได้เจตนาฆ่านายชูวงษ์ แต่อย่างใด
โดยวันนี้ศาลเบิกตัว พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย ซึ่งอยู่ในชุดนักโทษ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาศาล
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มพิจารณา ศาลได้แจ้งให้คู่ความทั้งสองฝ่ายทราบว่าเนื่องจากขณะนี้มีการแพร่ระบาดร้ายแรงโรคไวรัสโควิค-19 ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีเข้าร่วมฟังในห้องพิจารณาได้เท่านั้น
โดยฝ่ายโจทก์นำพยาน 1ปากเข้าเบิกความจนแล้วเสร็จ ซึ่งทนายความโจทก์แถลงศาลว่า ยังมีพยานโจทก์อีก 4 ปาก ที่จะต้องนำเข้าสืบอีก แต่วันนี้ได้เตรียมพยานโจทก์มาศาลเพียงปากเดียวเท่านั้นจึงขอเลื่อนสืบพยานโจทก์ออกไปก่อน
ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาต และนัดสืบพยานโจทก์ครั้งต่อไปวันที่ 9 มิ.ย.นี้เวลา 09.00 น.ตามที่นัดไว้เดิมและให้คู่ความทั้งสองฝ่ายไปกำหนดวันนัดสืบพยานจำเลยใหม่ แทนนัดเดิมที่เคยนัดไว้แล้ว แต่มีการเลื่อนพิจารณา
ขณะที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปตรวจความเรียบร้อยที่ศาลอาญาพระโขนง ซึ่งวันนี้ศาลนัดสืบพยานโจทก์ และได้เบิกตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ จำเลยจากเรือนจำมา ซึ่งเนื่องจากเป็นการขนย้ายนักโทษมาจากเรือนจำ ทางศาลเกิดความเป็นห่วงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จึงขอกำลังตำรวจมาดูแลมาตรการรักษาความปลอดภัย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. สน.บางนา ทำงานร่วมกับกองปราบปราม ตำรวจศาล และกรมราชทัณฑ์ โดยมีการตั้ง ศปก.ควบคุม กำหนดมาตรการแผนเผชิญเหตุร่วมกัน ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลความเรียบร้อยบริเวณศาลการพิจารณาคดี พ.ต.ท.บรรยิน ทุกๆ ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เดิมศาลอาญาพระโขนงได้พักการพิจารณาคดีไว้ เนื่องจากรอผลคำพิพากษาในคดีปลอมเอกสารโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ ร่วม 300 ล้านบาท ของศาลอาญากรุงเทพใต้ฯ ซึ่ง พ.ต.ท.บรรยิน ร่วมกับพวกกระทำผิด โดยศาลอ่านคำพิพากษ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.63 ให้จำคุก น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล อดีตพริตตี้ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี , น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์และคนสนิทของ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 2 มีกำหนด 4 ปี ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน อดีต รมช.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 จำคุก 2 กระทงๆ กระทงละ 4 ปี รวมจำคุก 8 ปี และให้ยกฟ้อง น.ส.ศรีธรา จำเลยที่ 4 มารดาของ น.ส.อุรชา จำเลยที่ 1 อดีตโบรกเกอร์
นอกจากนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ยังตกเป็นจำเลยคดีร่วมกับพวก 6 คน อุ้มฆ่าพี่ชาย น.ส.พนิดา สกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีโกงหุ้นเสี่ยชูวงษ์ในขณะนั้นด้วย ซึ่งในคดีดังกล่าว พ.ต.ท.บรรยิน กับพวก โดนยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง 1.ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้
2.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้ใดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไปถึงแก่ความตาย 3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4.ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป 4.เป็นซ่องโจร โดยสมคบกันเพื่อกระทำผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิต 5.ร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการใดโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และ 6.ร่วมกันซ่อนเร้น ทำลายศพเพื่อปิดบังการตายและสาเหตุการตาย 7.ร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นเพื่ออำพรางคดี และ 8.ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน
และเฉพาะ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 1 ยังถูกฟ้องเพิ่มเติมข้อหา สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมาย ของเจ้าพนักงาน เพื่อให้คนอื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิและแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิเพื่อกระทำผิดอาญา
โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้สอบคำให้การ พ.ต.ท.บรรยิน แล้ว ซึ่งให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีวันที่ 22 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี