สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้นักวิชาการหลายๆท่านออกมาแสดงความเห็นต่อผลที่เกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะงักงันซึ่งเกิดจากมาตรการของภาครัฐในการควบคุมการระบาดของไวรัสดังกล่าว ผลกระทบที่เกิดขึ้นส่งผลต่อทุกภาคส่วนของประเทศ และอาจกล่าวได้ว่าสะเทือนกันไปทั่วโลก มากน้อยต่างกันตามระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาดและความเข้มงวดของแต่ละมาตรการที่แต่ละประเทศกำหนด ตลอดจนความสามารถในการรับมือและการฟื้นฟูที่ต้องดำเนินการ
ประเทศไทย ณ ปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาของการช่วยเหลือเยียวยาและร่วมมือกันหยุดเชื้อเพื่อชาติ ต่อเนื่องไปสู่ช่วงของการฟื้นฟูชาติให้กลับมาดีดังเดิม หรือดีกว่าเดิมให้ได้ ดังนั้นการร่วมกันคิดช่วยกันคนละไม้ละมือ เพื่อผลักดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้สามารถสร้างความอยู่ดีกินดี สร้างความมั่นคงในระดับสังคมและระดับครัวเรือนให้เกิดขึ้น ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน นับว่าเป็นความโชคดีของประเทศไทยที่เป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเกษตรกรรมที่มีความมั่นคงทางอาหารรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติมากี่ครั้ง ภาคการเกษตรยังสามารถช่วยให้ประเทศไทยรอดพ้นวิกฤติเหล่านั้นมาได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเศรษฐกิจฐานราก คงหนีไม่พ้นเกษตรกรในฐานะผู้ผลิตเริ่มต้นในกระบวนการความมั่นคงทางอาหาร ก่อนที่จะส่งผลผลิตที่เกษตรกรผลิตได้เข้าสู่กระบวนการห่วงโซ่อาหารต่อไป สิ่งที่น่าสนใจคือ เกษตรกรมีความมั่นคงเพียงใด ทั้งความมั่นคงในอาชีพ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการประกอบอาชีพ ความมั่นคงในครัวเรือนเกษตรกร หรือแม้แต่ความมั่นคงทางด้านสุขอนามัย ประเด็นเหล่านี้ จำเป็นต้องนำมาพิจารณาควบคู่ไปด้วย มิเช่นนั้นจะกลายเป็นความมั่นคงที่ผุกร่อน คล้ายกับต้นไม้ใหญ่ที่ให้ผลผลิตเลี้ยงผู้คนมากมาย มีการนำผลผลิตไปบริโภค แปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น แต่ระบบรากของต้นไม้ไม่แข็งแรง ไม่สามารถดูดแร่ธาตุอาหารมาหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ในที่สุดต้นไม้ต้นนี้คงไม่รอด ไม่สามารถให้ผลผลิตได้ และตายไปในที่สุด ดังนั้น หากยังต้องอาศัยผลผลิตจากต้นไม้ต้นนี้ จำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบำรุงรักษาระบบรากของต้นไม้ให้แข็งแรง ให้น้ำ ให้ธาตุอาหารอย่างเหมาะสม เพื่อให้ต้นไม้ให้ผลผลิตได้อย่างเพียงพอ
การฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังเร่งดำเนินการ หากหลักคิดและวิธีการดำเนินการไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงจากที่คิดว่าจะทำให้รากของต้นไม้แข็งแรงมากขึ้น ผลที่ได้อาจเป็นการทำให้ต้นไม้อ่อนแอลงไป และอาจรุนแรงถึงขั้นล้มตายลงก็ได้ ดังนั้นโครงการหรือกิจกรรมใดก็ตามที่จะนำมาสู่การปฏิบัติเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในปัจจุบัน ควรให้ผู้เกี่ยวข้องที่แท้จริงมีส่วนร่วมในการคิด บนพื้นฐานของการพัฒนาเดียวกัน ในแนวนโยบายเดียวกัน แต่อาจแตกต่างในการปฏิบัติ ขึ้นกับสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ แล้วต่อยอดสู่การแก้ไขปัญหาของชาติในภาพรวม ผลที่เกิดขึ้นจะเห็นผลชัดเจนขึ้นและสร้างความเข้มแข็งให้กับฐานรากของระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างแท้จริง แต่หากเป็นเช่นปัจจุบันที่ภาครัฐมีโครงการ งบประมาณ นับแสนล้าน
แต่ขาดการเชื่อมต่อและข้อจำกัดด้านเวลาชองการคิดและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ จึงเชื่อได้ว่าผลที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเช่นที่ผ่านมา ไม่สามารถสร้างความมั่นคงได้อย่างสมบูรณ์ เพราะการเร่งดำเนินการจัดทำโครงการภายใต้
นโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ผู้จัดทำโครงการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับปฏิบัติ ยิ่งเวลาในการจัดทำสั้นมาก จึงเป็นการยากที่จะร่วมพัฒนาโครงการกับผู้เกี่ยวข้องที่เป็นเป้าหมายของการพัฒนาได้จริง สุดท้ายจำเป็นต้องปัดฝุ่นโครงการที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ หรือโครงการที่มีความเสี่ยงเสนอเข้าไปก่อน เมื่อส่งต่อโครงการขึ้นไปในระดับบน อาจเกิดการควบรวมจัดเป็นชุดเพื่ออนุมัติให้ดำเนินการ สุดท้ายก็ไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาใดๆ ได้เช่นเคย และอาจสร้างปัญหาขึ้นมาใหม่หมุนวนกันไป ไม่แตกต่างไปจากเดิมการคิดโครงการที่ไม่รอบคอบไม่ตรงกับความต้องการของผู้ที่เป็นเป้าหมายของการพัฒนา ผ่านการอนุมัติให้ดำเนินการจากผู้บริหารหน่วยงานที่ต้องการให้เป็นไปตามนโยบาย เมื่อโครงการถูกนำไปปฏิบัติจริง ก็อย่าได้หวังผลเลิศนอกจากภาพที่เกิดขึ้นจริงว่าเม็ดเงินถูกเบิกจ่ายไปหมดแล้วหวังผลกับสร้างภาพจึงต่างกันที่จุดคิด
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี