ฎีกายืนสั่งจำคุก4ปี
เสี่ยดังซิ่งเบนซ์ชน
2นศ.ปริญญาโทดับ
ญาติเหยื่อสาวพอใจ
ศาลฎีกาพิพากษายืน สั่งจำคุก 4 ปี “เสี่ยเจนภพ” นักธุรกิจดัง ซิ่งเบนซ์ชนท้ายเก๋ง 2 นศ.ปริญญาโทดับสยอง สู้คดียืดเยื้อเกือบ 4 ปี ด้านครอบครัว“ฮ้อแสงชัย”ผู้สูญเสีย ชี้ผลคดีเป็นบรรทัดฐานให้กับสังคม
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพระนคศรีอยุธยา ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีที่อัยการเป็นโจทก์ และมีนายไพบูลย์ ถาวร นายทิวากร ฮ้อแสงชัย กับพวกรวม 4 คน เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายเจนภพ วีรพร อายุ 41 ปี นักธุรกิจชื่อดัง เป็นจำเลยในความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 จำเลยได้ขับรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ซีแอลเค สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เฟียสต้า ทะเบียน ฆย 6911 กรุงเทพมหานคร จนเกิดไฟลุกไหม้ ทำให้นายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
คดนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา โจทก์และโจทก์ร่วมที่ 3 และ 4 ได้ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เพิ่มโทษจำคุกจำเลย ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้เพิ่มโทษ ตามที่โจทก์และโจทก์ร่วม ได้อุทธรณ์ พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 6 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้บางส่วน คงจำคุกจำเลย 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ขณะที่จำเลยได้ยื่นศาลฎีกาขอให้ศาลลงโทษสถานเบา และรอการกำหนดโทษจำเลย โดยอ้างว่าได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมทั้ง 4 คน เห็นว่าเป็นเรื่องที่จำเลยต้องรับผิดชอบให้แก่โจทก์ร่วมทั้ง 4 ตามกฎหมายในทางแพ่งอยู่แล้ว ส่วนที่จำเลยอ้างว่าจบการศึกษาจากต่างประเทศ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท มีคุณงามความดีช่วยเหลือผู้อื่น หลังจากเกิดเหตุก็ได้บวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายเป็นเวลา 2 เดือน 3 สัปดาห์ ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษให้จำเลยได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปีนั้น เหมาะสมแก่พฤติการณ์ของรูปคดี และเป็นคุณแก่จำเลยแล้ว
ส่วนที่โจทก์ร่วม ขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยสถานหนัก และไม่รอการลงโทษ เห็นว่าที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ลงโทษจำเลย ได้ใช้กฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุดแก่จำเลย และชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขทั้งบทและโทษที่ลงแก่จำเลย ฎีกาของโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน คงจำคุกจำเลย 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ด้าน น.ส.กัญจนา ฮ้อแสงชัย น้องสาวของ น.ส.ธัญฐภัทร์ กล่าวว่า ทางครอบครัวฮ้อแสงชัย ขอขอบพระคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมทุกฝ่าย และพี่สาวผู้เป็นที่รักยังอยู่ในความทรงจำของทุกคนในครอบครัวเสมอ ขณะที่มีชีวิต พี่สาวได้ช่วยเหลืองานด้านสังคมและศาสนามาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ดี เชื่อว่าผลของคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานที่ดีให้แก่สังคมส่วนรวมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี