“อธิบดีกรมปศุสัตว์” ระบุผลสอบเบื้องต้นกรณีผู้ปกครองนักเรียน “โรงเรียนแม่ยางเปี้ยว” จ.แพร่ ร้อง “นมโรงเรียนบูด” ล่าสุดโรงเรียนแจ้งเป็นนมตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 พร้อมตรวจสถานที่เก็บรักษาพบกล่องอับชื้นจนผุ มดเจาะจุดเจาะหลอดดูด เร่งให้คำแนะนำแก่โรงเรียนให้จัดเก็บตามข้อกำหนดของ อย.
4 มิถุนายน 2563 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน กล่าวว่า กรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนแม่ยางเปี้ยว (แก้วพิสณฑ์ประชานุกูล) ตำบลแม่ยางฮ่อ อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ พบนมโรงเรียนชนิดยูเอชทีเน่าเสีย ก่อนหมดอายุ หลังได้รับแจกจากโรงเรียนนั้น จากการสอบถามทางโรงเรียนพบว่านมที่พบปัญหาบูดเสียเป็นนมยูเอชทีสำหรับแจกจ่ายให้นักเรียนช่วงปิดภาคเรียนที่ 2/2562 โดยผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม คือ บริษัท โกลมิลค์ จำกัด แต่ทางโรงเรียนเก็บไว้ไม่ได้แจกเด็กนักเรียน โดยระบุว่าติดขัด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 จากนั้นได้นำมาแจกเด็กในวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเข้าสู่ภาคการศึกษาที่ 1/2563 มีการจัดซื้อจัดจ้าง และต้องส่งนมชุดใหม่แล้ว
นายสัตวแพทย์สรวิศ ระบุว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากคณะทำงานสอบข้อเท็จจริงตามประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ประกอบด้วย ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ ผู้แทนท้องถิ่นจังหวัดแพร่ ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัดแพร่ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแพร่ และปศุสัตว์อำเภอร้องกวาง ว่า บริษัท โกลมิลค์ จำกัด ได้จ่ายนมชุดนี้ให้ทางโรงเรียนเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 จำนวน 5,436 กล่อง ซึ่งทางโรงเรียนระบุว่าจัดการเรียนการสอนวันสุดท้ายในวันที่ 13 มีนาคม 2563 จึงทำให้ไม่สามารถแจกจ่ายนมปิดภาคเรียน 2/2562 ให้เด็กนำกลับไปดื่มที่บ้านได้ทัน จากนั้นเมื่อแจกจ่ายแก่นักเรียนในวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 มีผู้ปกครองนักเรียน 1 ราย แจ้งว่านมบูด โรงเรียนจึงให้ผู้ปกครองนำนมมาคืน รวมถึงประสานให้ผู้ปกครองนักเรียนคนอื่นให้ตรวจสอบนม แต่ไม่พบว่ามีนมบูดเพิ่ม
นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบบรรจุภัณฑ์นั้น มีนมที่มีปัญหา 17 ลัง ไม่มีปัญหา 90 ลัง โดยกล่องนมที่มีปัญหา พบว่า มีความชื้น ลังนมผุ มีรอยเจาะของมดบริเวณตำแหน่งเจาะหลอดดูด และพบนมบูดเสีย 1- 25 กล่องต่อลัง มีรอยเจาะของมดบริเวณตำแหน่งเจาะหลอดดูด จากนั้นจึงได้ประสานบริษัทโกลมิลค์ จำกัด โดยบริษัทตกลงเปลี่ยนนมที่มีปัญหาให้ 107 ลัง ทั้งนี้คณะทำงานสอบข้อเท็จจริงจะได้รวบรวมผลตรวจคุณภาพน้ำนมจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ และผลจากการตรวจสอบโรงงานผลิตภัณฑ์นม ซึ่งรับผิดชอบโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อประกอบการพิจารณาสรุปผลต่อไป
ทั้งนี้ ตามประกาศคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน กำหนดให้ผู้ผลิตนมโรงเรียนต้องระบุวันเดือนปีที่ผลิต และวันเดือนปีที่หมดอายุไว้บนบรรจุภัณฑ์ กรณีผลิตภัณฑ์นมชนิดยูเอชทีต้องมีอายุสำหรับการบริโภคไม่เกิน 10 เดือน และวันที่จัดส่งให้โรงเรียน นมจะต้องมีอายุสำหรับการบริโภคเหลือไม่น้อยกว่า 4 เดือน
สำหรับการตรวจรับนมโรงเรียนต้องเป็นไปตามคู่มือนมโรงเรียนที่อย. จัดทำไว้ และการเก็บรักษานมยูเอชทีนั้น โรงเรียนจะต้องดูแลให้มีสถานที่จัดเก็บที่สะอาดสามารถป้องกันสัตว์พาหะและการเสื่อมคุณภาพของผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนโดยบรรจุในลังกระดาษ ไม่ซ้อนลังสูงเกิน 8 ชั้น หรือกรณีกล่องนมที่ห่อด้วยฟิล์มพลาสติกไม่วางซ้อนสูงเกิน 5 ชั้น และเก็บรักษาในสภาพที่สะอาดบนชั้นยกสูงจากพื้นอย่างน้อย 10 เซนติเมตร รวมทั้งวางเก็บรักษาที่อุณหภูมิไม่เกิน 45 องศาเซลเซียสในสภาพไม่เปียกชื้นและไม่ถูกแสงแดด
“ยืนยันว่า กรณีนมบูดเสียนี้ ไม่ได้มีปัญหาจากการจัดสรรพื้นที่จำหน่าย เนื่องจากเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมทุกรายดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลุ่มพื้นที่ โดยจะจัดสรรพื้นที่ตามหลักโลจิสติกส์ คือ พิจารณาจัดสรรให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมที่มีสถานที่ผลิตและพื้นที่จำหน่ายในพื้นที่เดียวกันก่อน ซึ่งกรณีนี้เป็นการจัดสรรของกลุ่มที่ 4 พื้นที่ภาคเหนือ โดยบริษัทโกลด์มิลค์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้รับจัดสรรสิทธิ์ให้ส่งนม จึงพิจารณาให้พื้นที่จำหน่ายในโรงเรียนแม่ยางเปี้ยว จังหวัดแพร่ ซึ่งอยู่ในกลุ่มพื้นที่เดียวกัน” นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี