"หมอบุ๋ม"เผยผู้ป่วยใหม่ 2 ราย กลับจากตปท.ไม่มีอาการ ขณะใประเทศติดเชื้อเป็นศูนย์ 12 วันแล้ว แต่มีผู้รักษาตัวในรพ. 75 ราย ชี้ผลตรวจผู้ติดเชื้อไม่มีอาการเกาหลี 25-39 % ใกล้เคียงกับไทย ระบุสถานการณ์ สหรัฐ -บราซิล- อินเดีย น่าเป็นห่วงพ.ค.เส้นกราฟผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้นสูงชัน

วันที่ 6 มิถุนายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี แพทย์หญิงพรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covid-19)ในประเทศไทยว่า วันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่2คน  เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 22 ปี เดินทางกลับจากรัสเซียถึงไทยวันที่ 1 มิถุนายน เข้าพักสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ (State quarantine )จังหวัดชลบุรี ผลตรวจยืนยันพบเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน

ส่วนอีกรายเป็นพนักงานชายในโรงงานประเทศคูเวต ถึงไทยวันที่ 24 พฤษภาคม อยู่ใน state quarantine ที่กทม. ตรวจพบเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน โดยทั้ง 2 รายไม่มีอาการ  สรุปวันนี้ มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,104 ราย อยู่ในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ 167 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศ 2,444 ราย  ผู้ป่วยหายแล้ว สะสม2,971 ราย และผู้ป่วยรักษาอยู่ในรพ. 75 ราย อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 12 แล้ว

โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จำแนกตามพื้นที่รับการรักษามากที่สุด กทม. นนทบุรี ตามมาด้วยภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ โดยส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 39 ปี พบมากในกลุ่มวัยทำงานอายุ 20-29 ปี

ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่มีการระบาด โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่กือบ 1.5 แสนคน ทำให้วันนี้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 6.8 ล้านราย มีผู้เสียชีวิต 5,000 คน รวมเสียชีวิตสะสม 400,000 คน  โดยสหรัฐอเมริกา ยังคงมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกมีผู้ป่วยสะสมเกือบ 2 ล้านราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 41,000 คน  ขณะที่ก่อนหน้านี้จะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 15,000-28,000 รายต่อวัน อันดับ 2 ประเทศบราซิลมีผู้ป่วยรายใหม่ 30,000 รายทำให้มีผู้ติดเชื้อ เกือบ 6.5 แสนราย จะสังเกตช่วงพฤษภาคม มีผู้ป่วยเฉลี่ย วันละ 10,000 ราย และวันนี้ 30,000 ราย แสดงว่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ ได้

สถานการณ์ในเอเชียประเทศอินเดีย วันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่ 9,400 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 240,000 คน โดยก่อนหน้านี้ช่วงต้นพฤษภาคมมีผู้ป่วย  2,000-3,000 รายต่อวัน ตามมาด้วยประเทศปากีสถานบังคลาเทศ สิงคโปร์ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ขณะที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซียนั้น มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณกว่า 10 คนต่อวัน

อย่างไรก็ดี วันนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้(KCDC)พบผู้ป่วยกลุ่มก้อน 39 ราย ซึ่งในประเทศเกาหลี จะพบกลุ่มติดเชื้อไม่แสดงอาการ25- 39% เป็นตัวเลขที่เทียบเคียงแล้วใกล้กับประเทศไทย ดังนั้น สิ่งสำคัญคนไทยจะต้องป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพราะผู้ติดเชื้อที่ไม่ทราบตัวเองติดเชื้อจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น  ขณะที่อีกฝ่ายไม่ทราบว่าใครที่ติดเชื้อจะได้ป้องกันตนเอง นอกจากนี้จะต้องหมั่นเช็คอิน -เช็คเอ้าท์ทุกครั้งเมื่อไปสถานที่ต่างๆหรือใช้บริการในพื้นที่ใด เพราะปกติจะตรวจพบกลุ่มเสี่ยงเมื่อเวลาผ่านไป 7-14 วัน หากเรามีการเช็คออกหลังจากผู้ติดเชื้อเดินทางมาเราก็จะได้ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือเมื่อเข้าพื้นที่เสี่ยงทางกรมควบคุมโรคจะได้แจ้งให้เข้ารับการคัดกรองตรวจได้ทัน

แพทย์หญิงพรรณประภา ได้กล่าวถึง การทดลองวัคซีนว่า ขณะนี้รัฐบาลบราซิลได้อนุญาตให้สามารถทดสอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาผลิตโดยมหาวิทยาลัย oxford ฉีดให้กับอาสาสมัครที่ไม่ติดเชื้อจำนวน 10,000 คน  ราย ภายหลังจากที่ได้มีการทดลองฉีดให้กับลิงในห้องทดลองแล้วได้ผลดี