จัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยว
ป้องกันโควิด
มท.ประสานทุกจังหวัด
ควบคุมไม่ให้คนแออัด
ย้ำห้ามการ์ดตกเด็ดขาด
ป่วยอีก2รายจากตปท.
“หมอบุ๋ม” แถลงพบผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย กลับจากต่างประเทศ ไม่มีอาการ ขณะที่ในประเทศติดเชื้อเป็นศูนย์ติดต่อกัน 12 วันแล้ว แต่มีผู้รักษาตัวในรพ. 75 ราย ด้าน ศบค.มท. กำชับทุกจังหวัดจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวชายหาด บาทวิถีให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี แพทย์หญิงพรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covid-19)ในประเทศไทยว่า วันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่2คน เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 22 ปี เดินทางกลับจากรัสเซียถึงไทยวันที่ 1 มิถุนายน เข้าพักสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ (State quarantine) จ.ชลบุรี ผลตรวจยืนยันพบเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน ส่วนอีกรายเป็นพนักงานชายในโรงงานประเทศคูเวต ถึงไทยวันที่ 24 พฤษภาคม อยู่ใน state quarantine ที่ กทม. ตรวจพบเชื้อวันที่ 4 มิถุนายน โดยทั้ง 2 รายไม่มีอาการ
สรุปวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,104 ราย อยู่ในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ 167 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศ 2,444 ราย ผู้ป่วยหายแล้ว สะสม2,971 ราย และผู้ป่วยรักษาอยู่ในโรงพยายบาล 75 ราย อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 12 แล้วโดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จำแนกตามพื้นที่รับการรักษามากที่สุด กทม. นนทบุรี ตามมาด้วยภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ โดยส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย 39 ปี พบมากในกลุ่มวัยทำงานอายุ 20-29 ปี
ขณะที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 และฉบับที่ 9 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ซึ่งได้มีการผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน อาทิ กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต และกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ ซึ่ง ศบค.มท. พิจารณาแล้วเห็นว่าการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมข้างต้นอาจทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายและการรวมตัวของประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้
วันเดียวกัน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับให้จังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหาด ให้ควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัด หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักการหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน และให้นำมาตรการป้องกันโรคตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 11 มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับพื้นที่ ประเภทกิจกรรม และสถานการณ์ที่เป็นอยู่จริง
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้ดำเนินการจัดระเบียบสังคมในพื้นที่สาธารณะริมบาทวิถีและพื้นที่ชายหาด 4 ด้าน คือ 1.เชิงพื้นที่ ในบริเวณพื้นที่สาธารณะริมบาทวิถี ให้พิจารณาแบ่งสัดส่วนการใช้พื้นที่ให้เหมาะสม ให้ผู้ประกอบการสามารถค้าขายได้อย่างถูกสุขลักษณะ ผู้สัญจรเดินไปมาบนบาทวิถีสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย ไม่กีดขวางการจราจร และไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญผู้อยู่อาศัยบริเวณนั้นๆ และในพื้นที่ชายหาด ให้พิจารณาแบ่งการใช้พื้นที่เป็นสัดส่วน สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ผู้ประกอบการต่างๆ เช่น การขายอาหาร ให้เช่าเก้าอี้ หรือเครื่องเล่นต่างๆ สามารถประกอบการได้ตามมาตรการที่กำหนด
2.เชิงกฎหมาย การอนุญาตอนุมัติให้ดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่สาธารณะต้องเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย 3.เชิงเศรษฐกิจ การดำเนินการจัดระเบียบสังคมในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง นอกจากเน้นมิติด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความปลอดภัยแล้ว ให้พิจารณามิติด้านเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบ และ 4.เชิงผู้ได้รับผลกระทบ การจัดระเบียบในที่สาธารณะให้ดำเนินการภายใต้อนุกรรมการการบรรเทาผลกระทบจากการจัดระเบียบสังคมระดับจังหวัด โดยแต่งตั้งผู้แทนผู้ค้าในบริเวณที่ได้รับผลกระทบและผู้แทนประชาคมในพื้นที่เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณากับคณะอนุกรรมการด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี