พิสูจน์ไฟปริศนาไหม้บ้าน2ครั้งวอด เจ้าของเปิดปากแล้ว (คลิป)
8 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดไฟปริศนาไหม้บ้าน 2 ครั้งวอดทั้งหลัง เมื่อช่วงกลางดึกของเช้าวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ของนางสาวอรสา บุญเลิศ อายุ 45 ปี แม่หม้ายสาว ที่บ้านเลขที่ 51 ม.11 บ้านน้อยพัฒนา ต.พระแก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวเดินสำรวจรอบๆที่เกิดเหตุการณ์ พบเพียงเศษไม้ของตัวบ้านที่ถูกไฟไหม้จนเป็นเถ้าถ่าน คงเหลือเศษเสาบ้านที่ถูกไฟไหม้ไม่หมดกับสังกะสีมุงหลังคาที่ไฟไม่สามารถไหม้ได้ ส่วนข้าวของเครื่องใช้อื่นถูกกองเพลิงไหม้จนหมด
หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงที่มาที่ไปของไฟไหม้บ้านดังกล่าว นางสาวอรสา ได้ยอมเปิดปากพูดกับผู้สื่อข่าวแล้วว่า เมื่อช่วงประมาณ 4 ทุ่มที่เกิดไฟไหม้ครั้งแรก ตนได้เห็นชายลักษณะตัวดำๆใหญ่ เดินรอบๆรอบบ้าน จึงออกไปดูก็พบกับนายบัง ซึ่งเป็นสามีใหม่ได้มาที่บ้านแต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน จึงได้บอกให้กลับบ้านไป หลังจากนายบัง ออกจากบ้านไป ตนและลูกสาวได้ขึ้นไปดูทีวีที่บ้านของเพื่อนบ้าน คล้อยหลังไม่นาน นายหยก ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่ตนมาดูทีวีได้เดินไปข้างนอกแล้วมองเห็นกลุ่มไฟกำลังไหม้บ้านตน นายหยกและญาติของตน จึงช่วยกับตักน้ำมาดับไฟไว้ได้ ก่อนสำรวจความเสียหายพบแค่ไหม้เสื้อผ้าและลังกระดาษเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางญาติๆของตนเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับตนจึงให้ตนเองและลูกสาวไปนอนที่บ้านแม่ โดยที่ตนไม่เห็นคนมาทำให้เกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ หลังจากที่ตนนอนหลับราวๆเที่ยงคืนได้มีเพื่อนบ้านตะโกนเรียกบอกว่าไฟไหม้บ้านแล้ว เพื่อให้ชาวบ้านช่วยกันดับไฟและทุกคนพยายามวิ่งหา กลัวว่าตนและลูกนอนหลับอยู่ในบ้านและติดอยู่ในกองเพลิง หลังที่ตนได้ยินเสียงโวกเวกจึงรีบวิ่งมาจากบ้านแม่ซึ่งอยู่ห่างออกไป 50 เมตร ก็พบกองเพลิงได้โหมไหม้บ้านอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถเอาของมีค่าออกมาได้ ส่วนที่เสียหายส่วนใหญ่จะเป็นข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า สมุดดินสอชุดเรียนของลูกสาวตน เพราะทรัพย์สินอย่างอื่นนั้นไม่มีเนื่องจากทางบ้านฐานะยากจน
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายสอน แก้วสว่าง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/1 บ้านแสนกาง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของ ด.ญ.ชนิสรา แก้วสว่าง เล่าให้ฟังสั้นๆว่า นางสาวอรสา บุญเลิศ แต่งงานอยู่กินกับน้องชายของตนมากว่า 10 ปี จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ก่อนที่น้องชายตนจะมาประสบอุบัติเหตุไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตเมื่อปี 2557 ทำให้นางสาวอรสาตกพุ่มม่ายจนได้มารู้จักกับนายบัง มีอาชีพขายโรตี ซึ่งไม่ทราบที่เป็นหลักแหล่ง ตนจึงมองว่านายบัง ไม่น่าคบ เมื่อราวๆปีที่แล้วก็เกิดเหตุไฟไหม้ที่สวนยางของตนเอง คล้ายๆกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามอดิศักิด์ ท่อนแก้ว พนักงานดับเพลิง อบต.พระแก้ว กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านชาวบ้านเมื่อเวลา 00.11 น. ตนจึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 3 นาย ออกปฏิบัติหน้าที่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้พบว่าไฟได้ไหม้บ้านวอดทั้งหลัง จนสังกะสีของบ้านได้ทรุดมากองที่พื้น ตนและทีมงานทำได้แค่เพียงฉีดน้ำเพื่อลำเลียงกันไฟไม่ให้ลามไปยังบริเวณใกล้เคียง หลังจากเพลิงสงบไม่สามารถตรวจสอบความเสียหายได้เนื่องจากเป็นเวลามืดค่ำ จึงได้รอเข้าตรวจสอบที่เกิดในตอนเช้าอีกครั้ง
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านโพนชาย ต.บ้านชบ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านนายบัง ผู้เป็นสามีใหม่ของนางสาวอรสา ตามที่นางอรสา บอกว่า นายบังได้มาให้ตนเองเมื่อช่วงหัวค่ำ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงบ้านไม่พบนายบังแต่อย่างใด จึงสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็ไม่มีใครทราบว่านายบังไปไหน และไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านภรรยาของนายบังด้วย พึ่งทราบข่าวจากที่ผู้สื่อข่าวเดินทางมาสอบถามหานายบัง ในครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี