‘บุ๋ม ปนัดดา’พาแจ้งความ พ่อแท้ๆนักการภารโรง อนาจารลูกสาว 2 คนนาน 2 ปี

9 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สมุทรปราการ ว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ในฐานะประธานองค์กรทำความดี ได้พา ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี สองพี่น้อง ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เข้าพบ พ.ต.ท.สุทิน พุ่มพวง สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายดำ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี พ่อแท้ๆของสองพี่น้อง ซึ่งมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวของตนเองภายในบ้านพักนานกว่า 2 ปี และข่มขู่ห้ามบอกใครจะฆ่าให้ตาย

ดร.ปนัดดา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีแจ้งขอความช่วยเหลือมาทางองค์กรทำความดีว่ามีสองพี่น้องซึ่งเป็นเด็กหญิง อายุ 14 และ 15 ปี พักอยู่ย่าน ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ถูกพ่อแท้ๆทำร้าย และล่วงละเมิดทางเพศ ไม่กล้าบอกใคร เนื่องจากถูกพ่อขู่ทำร้ายร่างกาย และอยู่ด้วยความหวดระแวง หลังจากได้รับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคมเข้าช่วยเหลือนำเด็กทั้ง 2 คนออกมาอยู่ในที่ที่ปลอดภัย และได้มีการสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนพาเด็กทั้ง 2 คนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวนายดำ พ่อสุดหื่นมาดำเนินคดี เนื่องจากเกรงว่านายดำ จะหลบหนีออกจากนอกพื้นที่

ดร.ปนัดดา กล่าวอีกว่า จากการสอบถามเด็กทั้งสองทราบว่าผู้เป็นพ่อทำงานเป็นนักการภารโรง อยู่ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และได้แยกทางกับแม่ของเด็กทั้งสองมานานหลายปีแล้ว และไปมีภรรยาใหม่มีลูกด้วยกันอีก 2 คน โดยที่นายดำ นำลูกสาวทั้งสองมาเลี้ยงเอง เวลาผ่านไปลูกสาวทั้งสองได้โตเป็นสาว ในช่วงอายุประมาณ 12 ปี นายดำ ผู้เป็นพ่อแท้ๆได้มีพฤติกรรมเข้ามาลวนลามลูกสาวทั้งสอง โดยการใช้มือจับอวัยวะเพศ และใช้อวัยวะเพศของตัวเองมาถูไถอวัยวะเพศของลูกสาว เพื่อสำเร็จความใคร และเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ มีการล่วงละเมิดโดยการใช้ลิ้นกับลูกสาววัย 1 ขวบ ซึ่งเป็นบุตรสาวของภรรยาใหม่ จนทั้ง 2 คนทนพฤติกรรมไม่ไหว ได้พยายามถ่ายคลิปเพื่อเป็นหลักฐาน ต้องการหยุดพฤติกรรมของพ่อตัวเอง จึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จากพฤติกรรมของผู้เป็นพ่อ ทำให้เด็กหญิงอยู่ในอาการหวาดผวา และไม่กล้าสู้หน้ากับคนทั่วไป  จึงประสานเจ้าหน้าที่ของนักพัฒนาสังคม ให้ดูแลสภาพจิตใจ และได้พาเด็กหญิงทั้งสองเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ติดตามจับกุมผู้เป็นพ่อ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ส่งเด็กทั้งสองไปตรวจร่างกายและพาเด็กทั้งสองเข้าสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ เพื่อเร่งรัดขออนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุโดยเร็ว เนื่องจากเกรงว่าผู้ก่อเหตุอาจจะหลบหนี ต่อมามีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้คุมตัวนายดำ ผู้เป็นพ่อมาทำการสอบปากคำแล้ว ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างสอบสวน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้