เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Thira Woratanarat" มีเนื้อหาดังนี้ 9 มิถุนายน 2563 โดย รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ได้ยินข่าวว่าทางสมช.กำลังจะประชุมเกี่ยวกับการปลดล็อคระยะที่ 4
หากถามว่า อยากฝากอะไรให้ท่านเพื่อประกอบการพิจารณา
ผมคงเรียนตรงๆ ดังนี้...
"ดูตามเนื้อผ้า ปลดล็อคมา 2 ระยะ ยังไม่มีการรายงานติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี
ปลดล็อคระยะที่ 3 ยังไม่ถึงเวลาที่จะสรุปได้อย่างมั่นใจว่า จะไม่มีเคสใหม่ในประเทศเกิดขึ้น
ที่แน่ๆ เราเห็นเหตุการณ์การ์ดตก ที่ชายหาด ที่โรงหนังในห้างที่จัดปาร์ตี้แฟนคลับดาราเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์เกิดไล่เลี่ยกัน แม้จะเป็นกิจการที่เสี่ยงพอสมควร ยังไม่มากเท่ากิจการอื่นๆ ที่จะปลดล็อคในระยะที่ 4
จะประเมินผล วันที่เหมาะสมควรจะเป็นกลางเดือนมิถุนายนครับว่าจะมีจำนวนเคสเพิ่มขึ้นหรือไม่"
หากไม่ และอยากจะก้าวไประยะที่ 4 สิ่งที่ผมจะฝากคือ...
"All-at-once strategy" และ "New operational models"
ก้าวที่จะไปต่อจากนี้คือ การเปิดกิจการที่มีความเสี่ยงมากๆ
จุดชี้เป็นชี้ตาย จะย้อนกลับไปเหมือนต้นเดือนมีนาคม
ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ อาบอบนวด หรือสนามมวย และอื่นๆ ที่มีการใกล้ชิดกันของคนหมู่มาก
ดังนั้น หากเกิดเคสติดเชื้อขึ้นมา จะกลายเป็น superspreader ได้แบบกรณีสนามมวย และผับที่ผ่านมา หรือเหมือนกับเกาหลีหลังปลดล็อคคราวก่อน
การตัดสินใจเปิดจึงขึ้นกับเงื่อนไข 2 ข้อเท่านั้น
หนึ่ง หากมีรายงานการติดเชื้อ รัฐต้องพร้อมมาก ที่จะมีระบบกวาดติดตามฝูงชนที่อยู่ในสถานที่และวันเวลาที่เกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที
การจะทำเช่นนั้นได้ ทีมต้องโคตรพร้อมสำหรับทุกจังหวัด และดีไม่ดีอาจต้องมีการแลกเปลี่ยนกัน กล่าวคือประชาชนที่ไปกิจการที่เสี่ยงอาจต้องแลกกับการยอมรับหนทางในการติดตามตัวยามฉุกเฉินได้ โดยรัฐต้องประกันความเป็นส่วนตัวของเค้าไม่ให้ถูกละเมิดตามสิทธิมนุษยชน
สอง กิจการต่างๆ เหล่านั้นจะเริ่มประกอบการได้ก็ต่อเมื่อมีรูปแบบการบริการที่แตกต่างไปจากอดีต เน้นความปลอดภัยของทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
ก่อนที่กิจการแต่ละที่จะตัดสินใจรับปาก และก่อนที่สมช.จะใจอ่อนตัดสินใจไปชงให้ศบค.อนุมัติ ทั้งสองโปรดหวนกลับไปนึกถึงบทเรียนชายหาดและปาร์ตี้แฟนคลับดาราในห้างสรรพสินค้าให้ดี
ถ้ากิจการยอมรับเงื่อนไข ก็ควรเคร่งครัด มีวินัยอย่างยิ่ง และต้องรับผิดชอบหากเกิดการละเมิดกฎเกณฑ์
ถ้าสมช.คิดว่าพร้อมจะชงให้ศบค.อนุมัติเปิดกิจการเหล่านั้น ก็ได้โปรดไปขันน็อตหน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้เคร่งครัดตรวจตรา ไม่ใช่รอให้สื่อโซเชียลเค้ามาลงภาพละเมิดกฎก่อนที่รัฐจะเห็นแล้วค่อยเต้น
หากผ่านสองเงื่อนไขดังกล่าวได้ จะปลดล็อคก็คงไม่ว่ากัน และอยากให้รอบคอบ อย่าสู้ศึกหลายด้าน
ด่านที่เราจะสู้ต่อไป มีทั้งโรงเรียน มีทั้งกิจการที่เสี่ยงต่อโรคระบาดกลับซ้ำมาก ดังนั้นได้โปรดอย่าเพิ่งเอาเรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามานะครับ
นโยบาย Green belt หรือ Travel bubble ที่กำลังประโคมข่าวกันนั้น...ใจเย็นๆ
ส่วนตัวแล้วผมอยากเรียนเสนอว่า ให้พ้นระยะที่ 4 ไปก่อน 2-4 สัปดาห์ และไม่มีเคสใหม่ในประเทศ 4 สัปดาห์ ค่อยก้าวต่อไป
ย่างก้าวสำหรับการท่องเที่ยวยุคใหม่นั้น ควรเป็น "Managed and traceable travel" ไว้จะมาเล่าให้ฟังครับ
วันนี้มีสองรายจากต่างประเทศ ได้ยินมาว่ารายหนึ่งที่มาจากยุโรปนั้น เคยมีอาการเหมือนโควิดช่วงกลางมีนาคม แต่ไม่ได้ตรวจแล็บ แต่ผ่านมาสองเดือน กลับมาไทยแล้วตรวจพบว่าติดเชื้อ ผลตรวจยังยืนยันไม่ได้ว่ายังมีไวรัสเป็นๆ หรือไม่ เพราะ RT-PCR นั้นมี cycle threshold ที่มีค่าสูง ยิ่งค่าสูงแปลว่าอาจมีไวรัสน้อย หรืออาจเป็นซากไวรัสที่ยังคงค้างหลังจากหายแล้วก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนหายโดยเร็ว
ด้วยรักต่อทุกคน
#ทำงานที่บ้าน
#NewNormal_NewMe
#ใส่หน้ากากเสมอล้างมือบ่อยๆอยู่ห่างจากคนอื่นๆ
#พูดน้อยๆเจอคนน้อยลงสั้นลง
ประเทศไทยต้องทำได้ครับ...
สู้ๆ...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี