เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วง กลางดึกที่ผ่านมา นายบัณฑิต ชวาลา อายุ 37 ปีผู้สื่อข่าวพิเศษ ช่องเวิร์คพ้อยท์ 23 ประจำ จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.นิพนธ์ คงพูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คนภายหลังถูกรุมทำร้ายจนบาดเจ็บเป็นแผลฉีกที่ริมฝีปาก ต้องเย็บแผลถึง 18 เข็ม นอกจากนี้ มีผู้ถูกทำร้ายบาดเจ็บคือ นายวรากร ใจดี อายุ 40 ปี มีแผลแตกที่หางคิว เย็บแผลรวม 8 เข็ม และมีรอยฟกช้ำที่ใบหน้า และ น.ส.นพักชล ศรีสุวรรณ์ อายุ 38 ปี ภรรยาของนายวรากร มีรอยฟกช้ำตามตัว จากการพยายามเข้าไปช่วยระงับเหตุ
นายบัณฑิตให้การว่า ช่วงค่ำวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนกับผู้บาดเจ็บทั้งสอง กำลังนั่งคุยกันท้ายรถกระบะที่หน้าหอพัก ซอยเทพารักษ์ 102 อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ระหว่างนั้นมีชายฉกรรจ์เดินเข้ามาถามหานายวรากร ก่อนทั้งหมดที่พากันมาจะเปิดฉากรุมทำร้ายร่างกาย ตนไม่ทราบเรื่องกลับต้องถูกลูกหลงไปด้วย เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ขอให้รีบมาระงับเหตุ แต่มีกู้ภัยมาช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาลก่อนส่วนมูลเหตุทราบเพียงว่า นายวรากร เคยมีปากเสียงกับชายที่เป็นขาใหญ่ในซอยดังกล่าว และเคยถูกบุกไปล้อมห้องพักมาแล้ว แถมยังถูกกรีดรถจนเสียหาย จนเวลาผ่านไปเกือบ 1 ปี จู่ๆ ก็มาถูกรุมทำร้ายในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ. สำโรงเหนือ กล่าวว่า ภายหลังรับแจ้งเหตุ ได้ตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดซึ่งบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด พร้อมทั้งใบหน้าของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ร่วมกันก่อเหตุ ทำให้พอทราบตัวแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุชายฉกรรจ์รุมทำร้ายชาวบ้านมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ ว่า ได้รับรายงานจากตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ แล้ว สำหรับหนึ่งในผู้ก่อเหตุคือ นายโฉนด หังสวนัส หรือเห่า ซึ่งร่วมกับพวกเกือบ 10 คนเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาผู้เสียหาย และล้อมไว้ ก่อนจะลงมือรุมทำร้ายร่างกาย ก่อนจะพากันหลบหนีไป ซึ่งภายหลังผู้เสียหายได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วจึงพากันแจ้งความดำเนินคดี โดยมูลเหตุน่าจะเกิดจากปัญหาขัดแย้งส่วนตัวที่ผู้เสียหายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้ก่อเหตุมาก่อน
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุเบื้องต้นแล้ว 2 ราย อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามและขยายผลจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่าอย่าใช้กำลังในการตัดสินปัญหา ควรตั้งสติและใช้สันติวิธีเข้ามาแก้ไข เพราะหากใช้กำลังทำร้ายที่นำมาซึ่งความเสียหายทั้งต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินแล้วก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย” รองโฆษก ตร.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี