เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 13 มิ.ย.63 พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201(ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201) ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณร้านค้าขายภายในตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งหลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ทราบเป็นการด่วนจากนั้นจึงพร้อมด้วยนายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว, พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และได้ประสานขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงและรถบรรทุกน้ำจากเทศบาลเมืองอรัญประเทศฯและ มทบ.19 พร้อมรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นร้านค้าขายล็อก ณ อยู่บริเวณหน้ากองอำนวยการตลาดโรงเกลือ ด้านซ้าย ซึ่งเป็นอารร้านค้าจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองและเสื้อผ้าใหม่ โดยเพลิงได้ลุกไหม้อยู่ภายในร้านค้าซึ่งเจ้าของห้องปิดอยู่ทำให้มีกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากหลังคาและบริเวณประตูด้านหน้า จนทำให้มีพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรที่อยู่บริเวณข้างเคียงเห็นเข้าจึงรีบแจ้ง จนท.ตำรวจและทหารพราน ที่ออกตรวจมาดูแลความสงบเรียบร้อยภายในตลาดโรงเกลือ
โดยเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้จัดส่งรถดับเพลิงและรถบรรทุกน้ำมาร่วมทำการดับเพลิงจำนวน 4 คัน และมีรถบรรทุกน้ำจาก มทบ.19 และ กรมทหารพรานที่12 มาร่วมสนับสนุนในการดับเพลิงในครั้งนี้ ท่ามกลางพ่อค้า แม่ค้า และกรรมกรชาวเขมรกำลังช่วยกันขนสินค้าจำพวกเสื้อผ้ามือสอง และ เสื้อผ้าสำเร็จรูป หนีออกจากร้านค้าข้างเคียงเนื่องจากเกรงไฟจะลามมาไหม้ถึงร้านค้าของตน แล้วมาวางกองไว้บริเวณหน้าอาคารกองอำนวยการตลาดโรงเกลือ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก และเจ้าหน้าที่ร้อย ทพ.1201 มาดูแลป้องกันมิจฉาชีพชาวเขมรมาลักทรัพย์สินของร้านค้าที่ถูกไฟไหม้
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ขั่วโมงก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยมีร้านค้าขายที่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายจำนวน 4 คูหา ส่วนใหญ่เป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้ามือสอง ทั้งนี้ พ.ต.ท.ภูมิสิษฐ์ ตั้งวิทย์เดชา รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึกฯได้ตรวจสอบพบว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นจากห้องเลขที่ 111/11 อาคารล็อก ณ แล้วลามไปติดห้องค้างเคียงทำให้ร้านค้าถูกไฟไหม้ไปทั้งหมดจำนวน 4 คูหาได้แก่ห้องเลขที่ 111/9 – 111/12 อาคารล็อก ณ. และเหตุไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากร้านค้าที่ถูกไฟไหม้และร้านค้าต้นเพลิง เป็นร้านค้าที่ถูกปิดไว้เนื่องจากเจ้าของร้านค้าเป็นชาวกัมพูชาและได้ปิดร้านเดินทางกลับประเทศไปตั้งแต่รัฐบาลไทยสั่งปิดด่านพรมแดนอรัญประเทศ เหตุไวรัสโควิด-19ระบาด
ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นตั้งเป้าไว้ประมาณไม่เกิน 1 ล้านบาท เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้ามือสอง และพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรได้นำมาเก็บไว้จนคล้ายโกดังเก็บสินค้า แต่ต้องรอสอบสวนเจ้าของห้องเสียก่อนว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้างที่เสียหาย ส่วนที่มีชาวเขมรพูดกันว่าร้านต้นเพลิงได้มีการเสียบปลั้กไฟเทียนไฟฟ้า ที่ศาลเจ้าที่ภายในร้านนานกว่า2เดือน จึงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรนั้นต้องรอตรวจสอบเสียก่อนว่าจริงหรือไม่
นางไสว กันอินทร์ อายุ 61 ปี เจ้าของห้องค้าขาย เผยว่าห้องค้าขายที่ถูกไฟไหม้นั้นตนได้แบ่งให้พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรเช่าค้าขายเสื้อผ้ามือสอง ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ไม่มีใครอยู่ร้านเพราะร้านถูกปิดตั้งแต่ด่านพรมแดนอรัญประเทศถูกสั่งปิดในช่วง โควิดระบาด คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี