ศบค.ยกบทเรียน"จีน-ญี่ปุ่น-ออสเตรเลีย"ปลอดเชื้อโควิดมาหลายสัปดาห์ แต่สุดท้ายก็ยังเกิดระบาดรอบใหม่ เป็นสัญญาณว่าโรคระบาดยังไม่สิ้นสุดง่ายๆ คาดเชื้อแฝงตัวอยู่ชุมชนในคนที่ไม่แสดงอาการ ชี้ไทยยังประมาทไม่ได้แม้แต่นิดเดียว พร้อมตรวจเข้มตลาดหลังปักกิ่งพบเขียงปลาแซลมอนเป็นตัวแพร่เชื้อ "หมอทวีศิลป์"วอนขอกินอาหารปรุงสุก
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในต่างประเทศที่น่าสนใจ พบว่า ประเทศจีน เผยแพร่ออกมาเผยแพร่ข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ปักกิ่ง 57 รายถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบ 2 เดือน ในจำนวนนี้มีผู้เกี่ยวข้องกับตลาดซินฟาตี้ ซึ่งเป็นตลาดสดและมีการพบเชื้อบริเวณเขียงปลาแซลมอน ทำให้ต้องตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดเป็นจำนวนมาก ทำให้กรุงปักกิ่งต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีกรอบ
"ในเมืองไทยแม้ยังไม่พบติดเชื้อจากปลา แต่ขอว่าช่วงนี้ก็ขอว่าให้กินปลาที่ปรุงสุก และขอให้ทำความสะอาดพื้นผิวตลาดอย่างเคร่งครัด และคงจะต้องมีการเข้มงวดตลาดกันต่อไปเพื่อให้มีมาตรการที่เข้มงวดตามกฏเกณฑ์"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกรุงโตเกียวถึง 47 คน และเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง แม้โตเกียวจะยังไม่สั่งปิดสถานท่องเที่ยว แต่จะตรวจเชื้อและเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป ขณะที่ประเทศออสเตรเลีย รัฐนิวเซาท์เวลส์ พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นรายแรก เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ค. เป็นสัญญาณว่าโรคระบาดยังไม่สิ้นสุดง่ายๆ ผู้ติดเชื้อเป็นชายวัย 20 ปี ที่หน่วยงานสาธารณสุขยืนยันว่า ไม่เคยไปร่วมชุมนุมประท้วงที่นครซิดนีย์ ไวรัสน่าจะยังแฝงอยู่ในชุมชนโดยผู้มีอาการเล็กน้อย ไม่มีอาการเลย นำเชื้อไปแพร่
"เราต้อเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาเป็นบทเรียนเพื่อปรับมาตรการปกป้องคนไทยต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้น 3 ประเทศเป้นตัวอย่างให้เราระมัดระวัง หลายคนบอกว่าเราเป็น 0 น่าจะสบายใจได้แล้ว จีนก็เป็น 0 สบายใจมาพักใหญ่ก็มาติดเชื้อ ญี่ปุ่นและออสเตรเลียก็เช่นกัน เราเรียนรู้ประเทศที่เดินหน้าก่อนหน้านี้เรา เราต้องระวังตัวอย่างไร สิ่งสำคัญที่เราแตกต่างจากที่อื่น ที่เขาบอกว่าเป็นอันดับ 1 ของเอเชียในการควบคุมโควิด-19 ได้ดี สิ่งที่เราแตกต่างจากคนอื่น คือ ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตอดเวลา ตรงนี้จะปกป้องเราได้ ขอให้ทำอย่างนี้ต่อเนื่องใน 5 มาตรการหลักบวกการเช็กอินเช็กเอาต์ด้วยไทยชนะ" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
เมื่อถามว่าการผ่อนคลายในระยะที่ 4 นักดนตรีตามร้านอาหารจะเล่นดนตรีกลางคืนได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จะเล่นได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสถานประกอบการนั้นๆจดทะเบียนไว้อย่างไร นักดนตรีต้องถามทางร้าน หากไม่ขอแล้วไปเล่นก็มีความเสี่ยง เพราะการลงพื้นที่ตรวจกิจกรรมและกิจการต่างๆจะต้องยึดกฎหมายปกติด้วย
สำหรับผู้ที่จะจัดกิจกรรมทางสังคม เช่น งานบวช งานแต่ง จัดโต๊ะจีน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้เราไม่ได้ห้าม แต่ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมหลัก คือ อยู่ห่างไว้ ใส่แมสกัน หมั่นล้างมือ ถือหลักสะอาดปราศจากแออัด เคร่งครัดไทยชนะ
เมื่อถามต่อว่า กรณีมีการพบเชื้อในหลายประเทศทบทวนการจับคู่แลกเปลี่ยนทัวริสต์กับประเทศในเอเชีย โดยให้คู่ประเทศที่มีอัตราผู้ติดเชื้อน้อยเข้ามาก่อน (ทราเวลบับเบิล) หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนแถลงว่าที่ประชุมศบค.รับหลักการในเรื่องนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรงวสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ก็เข้าไปดูราละเอียด มีข้อกังวลว่าตอนนี้เชื้อโรคระบาดไปทั่วโลก และการติดเชื้อวันละเป็นแสนรายจึงต้องชั่งน้ำหนักระหว่างเศรษฐกิจกับสุขภาพ อย่างเช่น ประเทศจีนเน้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เราก็ใช้หลักการอย่างนี้
"ที่มองว่าการให้คนเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ก็ต้องมองด้วยว่าหากมีการติดเชื้อก็จำเป็นต้องใช้เงินในการรักษา จึงต้องคิดให้รอบคอบ และขอให้ทุกคนใจเย็น เรามีผู้มีผู้รู้ที่กำลังคิดและตัดสินใจในเรื่องนี้ โดยจะมีการหารือในที่ประชุมศบค.ชุดเล็กในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ เพื่อนำเสนอที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ต่อไป"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี