กลางเดือนมิถุนายนเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ เป็นไปตามลักษณะของธรรมชาติ และการจัดการของมนุษย์ประกอบกัน กลายเป็นกิจกรรมร่วมกันของมนุษย์กับธรรมชาติ เช่นเดียวกับกิจกรรมทางการเกษตรที่มนุษย์ต้องร่วมทำงานกับธรรมชาติ เมื่อฝนมาก็ถึงฤดูการเพาะปลูก การเตรียมการต่างๆ ทั้งการเตรียมดิน เตรียมพันธุ์ แรงงาน และความรู้เทคโนโลยีต่างๆก็ต้องเตรียมลงมือดำเนินการ
การเพาะปลูกพืขที่ต้องอาศัยธรรมชาติเช่นฝน ในรอบ 1 ปี สามารถทำได้ครั้งเดียว ถ้าพลาดแล้วจะพลาดเลย รออีกครั้งเมื่อครบรอบอีกปี ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องไม่สามารถสะดุดหยุดลงได้ จึงเห็นการเตรียมการ การดำเนินการทันทีเมื่อเวลาและโอกาสมาถึง
ในทำนองเดียวกันในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายนของทุกปี จะเห็นการลงมือดำเนินงานของข้าราชการในส่วนต่างๆ ไม่เว้นหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร เรียกว่าเกี่ยวทั้งการเพาะปลูก เกี่ยวทั้งระบบราชการ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมการชี้แจงงบประมาณ การจัดทำโครงการเร่งด่วนภายใต้แผนฟื้นฟู การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ตามงวดเงินที่ได้รับการจัดสรรให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด เพราะหากไม่เป็นตามเป้าหมาย ระหว่างการชี้แจงงบประมาณต้องมีการชี้แจงเหตุผล ความจำเป็นต่างๆที่เกิดขึ้น และบางหน่วยงานอาจถูกตัดงบประมาณตั้งแต่ขั้นตอนนี้เลยก็เป็นได้
อีกมุมหนึ่งของระบบราชการคือ ระบบการบริหารงานบุคคล เป็นช่วงเวลาที่มีข้าราชการต้องเกษียณอายุราชการในช่วงสิ้นปีงบประมาณ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการเข้าสู่ตำแหน่ง การโยกย้าย สับเปลี่ยน จึงเริ่มต้นในช่วงเวลานี้เช่นกัน นัยว่าเพื่อไม่ให้เกิดการขาดช่วงในการปฏิบัติราชการ สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง การจัดวางกำลังคนเพื่อให้นโยบายต่างๆ ของภาครัฐสามารถบรรลุผลตามเป้าหมาย ได้สร้างแรงกระเพื่อมในแวดวงของข้าราชการพอสมควร บางคนก็เร่งดำเนินงานในหน้าที่ให้สำเร็จโดยเร็วตามเป้าหมาย บางคนก็แต่งตัวรอเข้าสู่ตำแหน่งที่มุ่งหวังไว้ หรือแม้แต่การแต่งตัวรอเกษียณ หลบหลีกความสุ่มเสี่ยงใดๆ โดยสิ้นเชิง รอวันที่จะจบชีวิตราชการไปอย่างสงบ เพียงให้ชื่อว่าเกษียณตำแหน่งนั่น ตำแหน่งนี้ ก็ว่ากันไป
บางกลุ่มที่มีความมุ่งหวังในตำแหน่งต่างๆ ก็มีวิธีในการเข้าสู่ตำแหน่งแตกต่างกัน เกิดภาวะการวิ่งเข้าหาเส้นทางของผู้มีอำนาจ หากมีความรู้ ความสามารถ ความรับผิดชอบ ได้รับการแต่งตั้งมา ก็คงพอรับกันได้ แต่เท่าที่ทราบ กลุ่มคนเหล่านี้มักจะประเมินตนเองสูงกว่าตำแหน่งที่มุ่งหวังเป็นส่วนใหญ่ บางคนไม่มีพื้นฐานความรู้ใดๆ กับงานที่จะต้องรับผิดชอบในตำแหน่งนั้น เพียงแต่อยู่ในกลุ่มก๊วนของสายการเมือง หรืออาจถูกส่งเข้าไปดูแลผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น หรือปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มก๊วนที่ทำไว้โดยไม่สนใจเรื่องอื่น เพียงยกประเด็นว่าเป็นตำแหน่งบริหารเท่านั้น จะมีพื้นฐานหรือไม่ก็บริหารได้ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเหมาะสม พอควร หรือถูกต้องเป็นสำคัญ
ตัวผมเองไปรับข้อมูลจากหลายช่องทางในเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้าย โดยปกติก็ได้แต่รับฟัง และทำความเข้าใจแต่ที่ผมสะกิดใจมากเป็นประเด็นการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในระดับอำเภอที่มีคำสั่งชี้ตัวให้ลงในตำแหน่งนั้นแล้ว ดูแล้วไม่น่าจะเป็นปัญหา ทั้งความอาวุโส ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ รักษาการในตำแหน่งดังกล่าวมาแล้ว อีกทั้งปีหน้าก็จะเกษียณอายุราชการ แต่ปัญหากลับกลายเป็นว่าผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานขอร้องแถมบังคับทุกวิถีทางให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการชี้ตัวสละสิทธิ์ เพื่อจะเปิดทางให้สายของนักการเมืองเข้าสู่ตำแหน่งนี้ให้ได้ หากไม่สำเร็จตามที่นักการเมืองชี้มา ผู้บริหารจะเดือดร้อน โดยที่สายของนักการเมืองนั้น เมื่อเทียบคุณสมบัติกันแล้วไม่สามารถเทียบได้ทั้งอายุราชการ เงินเดือน ประสบการณ์การทำงาน ในที่สุดผมก็คงได้แต่ปลงกับระบบราชการที่เป็นอยู่ ผู้บังคับบัญชาที่ดีควรแสดงความรับผิดชอบต่อหน่วยงานและยึดระบบการบริหารงานบุคคลที่มีคุณธรรม มีธรรมาภิบาล
อย่าให้เจ้าหน้าที่ระดับล่างสิ้นหวังกับการบริหารงานของผู้บังคับบัญชาที่พึงพาไม่ได้ คุณธรรมต้องเริ่มที่คุณทำ
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี