ครม.อนุมัติแล้ว 4 โครงการ ช่วยเหลือ-เยียวยา-ชดเชยผลกระทบโควิด-19ด้วยการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการหัวละ3พันบาท อีกทั้งตามเก็บตกช่วยโครงการ’เราไม่ทิ้งกัน’อีกเพียบ
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 16มิถุนายน ว่า ครม.อนุมัติ 4โครงการช่วยเหลือ เยียวยาและชดเชย แก่ประชาชกลุ่มต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ดังนี้ 1.ช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจ่ายให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือเยียวยาจากโครงการของภาครัฐ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 1,164,222 คน เดือนละ 1,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน (พฤษภาคม-กรกฎาคม)โดยจ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินทั้งสิ้น 3.49พันล้านบาท
2.ช่วยเหลือผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จตามโครงการเราไม่ทิ้งกัน ของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีจำนวน 302,160คน ที่ตรวจสอบความซ้ำซ้อนแล้ว ยังไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ เยียวยาและชดเชยจากโครงการของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 กรอบวงเงินงบประมาณ ไม่เกิน 906ล้านบาท โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังไปพิจารณากำหนดกลุ่มเป้าหมายและกลไกการความช่วยเหลือให้ชัดเจนและส่งให้คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯพิจารณาใน 1 เดือน
3. ช่วยเหลือกลุ่มผู้เปราะบาง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
กลุ่มเปราะบาง รวมทั้งหมด 6,781,881 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้รับการเยียวยาจากมาตรการอื่นของรัฐ และไม่ซ้ำซ้อนกับระบบประกันสังคม และระบบสวัสดิการของภาครัฐ ประกอบด้วย 1) เด็กจากครัวเรือนยากจน (ตั้งแต่แรกเกิด – 6 ปี) จำนวน 1,394,756 คน 2) ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4,056,596 คน 3)ผู้พิการ จำนวน 1,330,529 คน โดยจ่ายเงินเยียวยารายละ 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเติมจากเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงเด็กแรกเกิด เพิ่มเติมจากเบี้ยความพิการ และเพิ่มเติมจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกรฎาคม 2563 กรอบวงเงินงบประมาณ รวมทั้งสิ้น 2.03หมื่นล้านบาท
4. ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 4.1 เพิ่มกลุ่มเป้าหมายเกษตรกร รวมถึงเกษตรกรที่ด้อยโอกาสและยังไม่สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตร จำนวน 137,093 ราย ทั้งนี้ ต้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 และผ่านการตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสวัสดิการผ่านระบบข้าราชการของกรมบัญชีกลางและระบบประกันสังคมของสำนักงานประกันสังคม รวมทั้งมาตรการอื่นใดของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการเยียวยาจากผลกระทบของโรคโควิด-19 แล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวเป็นไปอย่างเท่าเทียม 4.2 การขยายเวลาการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรได้อย่างสมบูรณ์ ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จำนวนประมาณ 120,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรในรอบการผลิตที่ผ่านมาแล้ว โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการลงทะเบียนเกษตรกรให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า วันที่ 16มิ.ย.ได้โอนเงินเยียวยางวดที่2 ให้เกษตรกร 999,984ราย รวมผลการโอนเงิน 2 วัน จำนวน 1,999,968 ราย เป็นเงิน 9,999.84 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นวันที่ 21 มิถุนายน
สำหรับรายชื่อที่ส่งคืนกระทรวงเกษตรฯ 222,331 ราย แบ่งเป็นข้าราชการ 91,426 ราย ที่เหลือ 132,905 ราย เป็นกลุ่มที่กระทรวงเกษตรฯ ต้องตรวจสอบสถานะทางทะเบียนราษฎร์ เนื่องจากก่อนโอนเงินเข้าบัญชี ทาง ธ.ก.ส.ได้ตรวจสอบข้อมูลกับกระทรวงมหาดไทยพบว่า มีทั้งผู้เสียชีวิตและอยู่ในสถานะถูกจำหน่าย ส่วนผลการรับแจ้งการสละสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมา ยังไม่มีผู้ประสงค์มาแจ้งสละสิทธิ์แต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี