เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ขส.บช.ปส. ในฐานะหัวหน้าชุดเทคนิคและสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมด้วยพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการ ปอท.ร่วมกันแถลงจับกุมนายสมพร สิงห์ห่วง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.259/2563 ลงวันที่ 4 มิ.ย.256 3 จับกุมได้ที่ ห้องเช่าเลขที่ 17/5 ภายในหมู่บ้านทรัพย์ศิริ ม.8 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ คือได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายว่า ได้มีคนร้ายแฮกไลน์ของผู้เสียหาย โดยหลอกให้กดลิ้งค์โหวตหลาน หลอกให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลส่วนตัวและรหัสไลน์ของตน จากนั้นคนร้ายได้ใช้ไลน์ของผู้เสียหายไปหลอกลวงให้บุคคลอื่นโอนเงินให้กับคนร้าย ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท นอกจากนี้ยังยึดของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟน 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม และอาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมกระสุน
น.ส.สุชีรา ท้าวคำหลง เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งตกผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้รับไลน์จากมารดาของเพื่อนให้ช่วยกดโหวตประกวดร้องเพลงของหลาน ซึ่งดูแล้วมีความน่าเชื่อถือ เพราะมีข้อมูลครบถ้วน แต่หลังจากที่ลองกดลิงค์เข้าไปดูแล้วพบว่าไม่สามารถโหวตได้ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามตามเบอร์ที่ทิ้งไว้ให้ คนร้ายจึงออกอุบายให้แจ้งรหัสผ่าน เป็นเหตุให้คนร้ายนำไปใช้สวมรอยเป็นผู้เสียหาย เพื่อไปขอยืมเงินจากคนสนิทของผู้เสียหายอีกทอดหนึ่ง หรืออีกวิธีคือออกอุบายให้โอนเงินผ่านคิวอาร์โค้ดของผู้ค้าออนไลน์ เพื่อจะนำไปกดเงินภายหลัง
ด้านนายสมพร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ทำไปเพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายและใช้หนี้พนัน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้อหาจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น แต่มีความรักชอบศึกษาเรื่องไอที จึงมีความรู้ด้านนี้เป็นพิเศษ เคยมีอาชีพเป็นผู้ค้าตามตลาดนัด แต่ปัจจุบันไม่มีอาชีพชัดเจน โดยตำรวจ ปอท.เคยจับกุมได้ครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมาในคดีสร้างลิงก์หลอกขอข้อมูลไลน์ผู้เสียหายเพื่อนำไปหลอกคนอื่นโอนเงินให้ตนเอง ก่อนจะประกันตัวออกไปก่อคดีดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังพบว่าบัญชีธนาคารส่วนใหญ่ที่ใช้ก่อเหตุเป็นของญาติพี่น้อง และอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ พร้อมขยายผลตรวจสอบไปยังขบวนการมิจฉาชีพอื่นๆ ว่าเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหารายนี้หรือไม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฐานฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีก 4 ข้อหา
ทั้งนี้ตำรวจยังได้ฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังเรื่องการกดลิงค์ , การโหวต หรือโอนเงินไปยังบุคคลไม่รู้จัก หรือกรอกข้อมูลส่วนตัว รวมทั้งการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้อื่น ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน อย่างหลงเชื่อโดยง่าย และหากประชาชนที่ถูกหลอกลวงให้โอนเงินโดยมีพฤติการณ์การกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วนของ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ที่สายด่วนหมายเลข 1155 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี