ตม.แกะรอยตะครุบเรียบ‘แก๊งปากีสถาน’ หลอกเชิดเงินร้านค้า หนีข้ามจังหวัด
17 มิถุนายน 2563 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 , พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จว.เชียงราย , พ.ต.อ.ปกกิจ คล้ายเพ็ชร ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.ท.สุริยา ไชยนาน สว.ตม.จว.ลำปาง ร่วมแถลงข่าวจับกุมแก๊งชาวปากีสถานหลอกเชิดเงินร้านสะดวกซื้อ หนีข้ามจังหวัด
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 (ตม.จว.เชียงราย บก.ตม.5) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่จัน ได้สืบสวนกลุ่มคนร้ายที่มาก่ออาชญากรรมในประเทศไทยตามการสั่งการของ ผบช.สตม. ทราบว่ามีแก๊งชาวปากีสถานได้มาตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้า โดยทำทีไปซื้อสินค้าแล้วจ่ายเงินด้วยธนบัตรชนิด 1,000 บาท แต่หลังจากทอนเงินแล้วกลับเปลี่ยนใจไม่ซื้อสินค้าและแกล้งสื่อสารกับคนขายไม่รู้เรื่อง เพื่อสร้างความสับสนพร้อมกับขอธนบัตรของตนคืน จากนั้นอาศัยจังหวะช่วงชุลมุนเอาเงินทอนทั้งหมดหรือบางส่วนไป
ต่อมาได้รับแจ้งจากผู้เสียหายซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานขายของร้านสะดวกซื้อที่ถูกก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามจนสกัดจับได้ที่จุดตรวจจุดสกัดบริเวณ ด่านตรวจกิ่วทัพยั้งแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย พบผู้ก่อเหตุ 2 ราย คือ นางชากีล่า (MS.SHAKEELA) อายุ 38 ปี ผู้ถูกจับที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่หลอกเข้าไปซื้อของในร้านค้าที่จะก่อเหตุ และนายมูฮัมหมัด (Mr.MUHAMMAD) อายุ 31 ปี ผู้ถูกจับที่ 2 ทำหน้าที่คอยดูต้นทางและทำหน้าที่ขับรถยนต์ จึงได้ทำการจับกุมตัวข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การลักทรัพย์และพาทรัพย์นั้น นำส่งสถานีตำรวจภูธรแม่จัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้น ตม.จว.เชียงราย ยังได้ทำการสืบสวนขยายผลจากพิกัด GPS ของรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ พบว่ามีการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรเหมืองจี้ จังหวัดลำพูน สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก และ สถานีตำรวจภูธรสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานหน่วยงานดังกล่าวอายัดตัวดำเนินคดีต่อไป
หลังการจับกุมดังกล่าว บก.ตม.5 ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทำการสืบสวนหาข่าว และตรวจสอบกลุ่มคนต่างด้าวที่พฤติการณ์ดังกล่าวเรื่อยมา และได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มคนต่างด้าวลักษณะคนเอเชียใต้ก่อเหตุโดยมีแผนประทุษกรรมคล้ายกับกลุ่มผู้ต้องหาสัญชาติปากีสถานข้างต้น คือแสร้งทำทีเข้าไปซื้อสินค้าหรือขอแลกเงินภายในร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายของชำทั่วไป โดยใช้ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท แต่หลังจากรับเงินทอนหรือเงินที่แลกแล้วกลับเปลี่ยนใจ โดยอาศัยที่คนขายพูดภาษาอังกฤษไม่ได้กลุ่มคนร้ายจึงโต้เถียงเป็นภาษาอังกฤษเพื่อสร้างความสับสนให้กับผู้ขายพร้อมกับหยิบเอาธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ที่จ่ายให้กับผู้ขายไป อีกทั้งยังลักเอาเงินทอนทั้งหมดหรือเงินที่ได้รับแลกซึ่งจะต้องส่งคืนให้กับผู้ขายไป จากนั้นก็ขึ้นรถยนต์ที่จอดรอแล้วหลบหนีไป
จากการตรวจสอบพบผู้เสียหายและเหตุเกิดร้านสะดวกซื้อพื้นที่ จ.พิษณุโลก และ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 7-9 มิถุนายน 2563 มีผู้เสียหาย 5 ราย ซึ่งชุดจับกุมได้นำภาพผู้ต้องหาขณะกระทำความผิดซึ่งบันทึกไว้จากกล้องวงจรปิดส่งพนักงานสอบสวนเป็นพยานหลักฐาน ซึ่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย คือ 1.) MR.MUDASSAR อายุ 20 ปี 2.) MR.HUSSAIN อายุ 35 ปี 3.) MR.ANWAR อายุ 29 ปี 4.) MR.IMRAN อายุ 29 ปี
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.5 , ตม.จว.เชียงราย , ตม.จว.เชียงใหม่ และ ตม.จว.ลำปาง ได้รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มผู้ต้องหาขับรถยนต์ออกจากเชียงใหม่ มุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน จึงได้ไล่ติดตามและประสานด่านตรวจตามเส้นทางให้สกัดจับ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 4 ราย ที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ ผบช.สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี