ช่วงนี้เกิดภัยพิบัติจากเจ้าเชื้อโควิด เลยทำให้เราชาวแอปเตอร์ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างที่เคยเป็น ทริปสุดท้ายสำหรับการเดินทางครั้งล่าสุด คือไปที่รัฐยะไข่ ของเมียนมา หลังจากนั้นเกือบทุกประเทศปิดหมด เราจึงต้องทำงานกันเฉพาะในออฟฟิศที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เกษตรกลางบางเขนเท่านั้น แม้กระทั่งมีการช่วยเหลือข้าวที่ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อเร็วๆ นี้ เราก็ไม่สามารถไปเข้าร่วมได้ เลยต้องปล่อยให้เขาทำกันเอง ดังนั้น ผมจะขอถือโอกาสนี้เล่าเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง คือ รูปแบบและวิธีการทำงานของบางประเทศ เท่าที่ได้ประสบพบเห็นมา เพราะได้มีโอกาสสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแต่เดิมตลอดชีวิตการทำงานราชการไทย ก็ได้เห็นรูปแบบวิถีการทำงานแบบไทยๆ มามาก มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป การนำเอาแนวของคนอื่นมาลองฉายภาพให้ดู บางทีอาจจะทำให้เราได้อะไรๆมากขึ้นนะครับ ลองเปิดกว้างรับฟังและใช้วิจารณญาณตรึกตรอง เลือกสรรแต่สิ่งดีงามมาปรับใช้ ก็น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการปรับปรุงพัฒนาบ้านเมืองอันเป็นที่รักยิ่งของเราไม่มากก็น้อยครับ
ผมขอเริ่มต้นด้วยญี่ปุ่นครับ อาจแทรกๆ เล่าไปแล้วในฉบับที่ผ่านมา แต่คราวนี้ขอขยายให้ชัดความและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ที่เลือกญี่ปุ่นขึ้นก่อนคงไม่ต้องกังขานะครับ ทั่วโลกต่างยอมรับนับถือในระบบการทำงานของญี่ปุ่น และพอดีในออฟฟิศแอปเตอร์มีผู้เชี่ยวชาญคนญี่ปุ่นอยู่ 1 คน ที่กระทรวงเกษตรฯ เขาส่งมาประจำ ได้เห็นการทำงานของเขาทุกวัน ซึ่งพบว่ามีแง่มุมของบรรทัดฐาน หรือ Norm น่าสนใจมาก อันดับแรกที่ผมขอยกมาพูดถึง คือ “การบันทึก” ผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นการสั่งการจากหน่วยเหนือหรือไม่ที่ทำให้คนญี่ปุ่น ต้องบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ความเป็นไปไว้ตลอดเวลา แต่ทราบชัดว่ามันคือข้อดีและควรทำเป็นอย่างยิ่ง ที่พูดอย่างนี้ เพราะเท่าที่ผ่านมา มีน้อยมากที่จะพบเห็นข้าราชการไทยจัดทำบันทึกหรือจดหมายเหตุไว้ รวมทั้งตัวผมเอง
การบันทึกโดยทั่วไปนั้น เท่าที่ทราบ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวตะวันตก หรือพวกฝรั่งที่ได้กระทำอยู่เป็นนิจมาเนิ่นนานแล้ว ประวัติศาสตร์ย้อนไปนับพันสองพันปีที่ทราบแม้กระทั่งชื่อคนที่เกี่ยวข้องก็เป็นผลมาจากการบันทึกจารึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรไว้นี้เอง ประวัติศาสตร์ไทยเราเอง ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาที่ชัดเจนถูกต้อง ก็มักไปอ้างอิงค้นคว้ามาจากหนังสือบันทึก
หรือจดหมายเหตุของพวกฝรั่งที่มาทำงานในบ้านเราเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นชาวฝรั่งเศส ฮอลันดา หรือแม้กระทั่งชาวจีนอันนี้ตรงกันข้ามกับชาวไทยเรา เพราะเราไม่นิยมบันทึกแต่ชอบใช้วิธีเล่าขานด้วยปากสืบต่อๆ กัน ซึ่งแน่ละจึงอาจมีการผิดเพี้ยนไปได้ง่ายๆ หากจำผิดพลาดหรือแม้แต่ตั้งใจจะเสริมแต่งให้ต่างออกไป
กรณีการบันทึกของผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นนี้ เขาจะทำการบันทึกสิ่งแวดล้อมและวิธีการทำงานของเขาและองค์กร และน่าจะรวมถึงบันทึกการทำงานรวมทั้งอุปนิสัยใจคอของผู้ร่วมงาน
แต่ละคน หรือคนอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้เสียไว้อย่างละเอียด สมุดบันทึกเล่มนี้ถือว่ามีความสำคัญยิ่งและจะต้องเก็บไว้อย่างดี เพราะเมื่อหมดวาระการดำรงตำแหน่งของเขา คนต่อไปที่มารับช่วง สามารถที่จะนำมาอ่านศึกษาล่วงหน้าและใช้ประโยชน์เพื่อการสืบต่อทำงานได้ทันที ทำให้รู้จักอุปนิสัยใจคอทุกคนที่ทำงานด้วยตั้งแต่ยังไม่ได้มาอยู่เสียด้วยซ้ำ
ผมเห็นปัญหาการทำงานราชการไทย เมื่อเวลาผ่านไป มีการเปลี่ยนตำแหน่ง ส่วนมากผู้มาใหม่ต้องคลำเป้าเอาเองทั้งสิ้น กว่าจะเริ่มงานได้ต้องเสียเวลาเรียนรู้งานเป็นเดือนถึงหลายเดือน บางเรื่องบางราวที่สำคัญบางทีหายไร้ร่องรอยไปอย่างต่อไม่ติด จึงเห็นได้ชัดครับว่าการบันทึกของคนญี่ปุ่นในลักษณะนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ควรนำมายึดถือปฏิบัติอย่างยิ่ง แต่สิ่งสำคัญในการบันทึกนั้น ผู้บันทึกจะต้องใช้คุณธรรมอย่างสูง กล่าวคือ เอาเฉพาะความจริงเท่านั้น อย่าเที่ยวไปเอาความเท็จมากลั่นแกล้งใคร แต่กระนั้น บทพิสูจน์ว่าคนบันทึกจะมีความเป็นธรรม หรือคุณธรรมแค่ไหนเพียงไรก็ไม่ยากนักที่จะทราบ เพราะผู้บริหารคนต่อมาย่อมสามารถที่จะแสวงหาความจริงได้ในที่สุด และการบันทึกที่ไร้คุณธรรมก็จะกลับมาย้อนสนองในทางลบต่อคนบันทึกเอง และนี่คือ Norm หรือ Normal ที่หวังจะให้เกิดเป็น New ซึ่งผมขออนุญาตนำมาเล่าเป็นอันดับแรกครับ
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี