“ตม.เลย” สนองนโยบาย “ผบช.สตม.” บูรณาการร่วม ลุยตรวจไซต์คนงานก่อสร้าง จับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงาน-อยู่เกินกำหนด
18 มิถุนายน 2563 ที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเลย (ตม.จว.เลย) พ.ต.อ.ชนะพณ สุวรรณศรีนนท์ ผกก.ตม.จว.เลย แถลงผลการจับกุมแรงงานต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย ว่า ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.เอกกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ชนะพณ สุวรรณศรีนนท์ ผกก.ตม.จว.เลย , พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.4 บก.สส.สตม. , พ.อ.สมหมาย บุษบา รอง ผบ.มท.28/รอง ผอ.รมน.จว.เลย , นายณรงค์ จีนอ่ำ ปลัดจังหวัดเลย , นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย , นายเอกลักษณ์ อุ่นภักดิ์ จัดหางานจังหวัดเลย , นายสุขสันต์ ไชยรถ ป้องกันจังหวัดเลย , พ.ต.ท.กันตพจน์ แจ่มปรางค์ทอง รอง ผกก.ตม.จว.เลย , พ.ต.ท.ปัญจมานนท์ เมฆเลื่อม สว.ตม.จว.เลย
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เลย ร่วมกับ จัดหางานจังหวัดเลย, กอ.รมน.จว.เลย, ฝ่ายปกครองจังหวัดเลย ,สาธารณสุขจังหวัดเลย และ กก.4 บก.สส.สตม. ได้ร่วมกันตรวจสอบกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนทางโทรศัพท์จากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ว่ามีคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในสถานที่ก่อสร้าง บริเวณอาคารหอพักหญิงแห่งหนึ่ง ถนนเลย-เชียงคาน ต.เมือง อ.เมืองเลย จ.เลย
จากการตรวจสอบเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 พบคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย และถูกจับกุม เป็นคนต่างด้าวสัญชาติอินเดีย 3 ราย พร้อมแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานฝ่าฝืน มาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เลย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบตามคำร้องเรียนทางโทรศัพท์ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ว่ามีคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในสถานที่ก่อสร้างอาคารหอพักหญิง โดยก่อนเข้าทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามค้ามนุษย์จังหวัดเลย ผลการตรวจสอบพบเห็นบุคคลมีลักษณะคล้ายคนต่างด้าว เพศชาย จำนวน 3 คน กำลังทาสีอยู่ในอาคารที่เกิดเหตุ หลังจากเห็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม บุคคลดังกล่าวได้วิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำบริเวณชั้น 2 ของอาคารที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว และขอตรวจเอกสารประจำตัว มีหนังสือเดินทาง แต่ไม่สามารถแสดงใบอนุญาตทำงานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ หลังจากนั้นได้นำเอกสารหนังสือเดินทางไปตรวจสอบผ่านทางฐานข้อมูลบุคคลเดินทางเข้า-ออก ในระบบ PIBICS รถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
จากการตรวจสอบปรากฏว่าคนต่างด้าวทั้งสามอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต โดยทำงานทาสีอยู่ที่หอพักหญิง ได้รับเงินค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท จากการให้การของผู้ถูกจับผ่านนายอโศก ยาดาฟ ซึ่งสื่อสารภาษาไทยได้เป็นอย่างดี แจ้งว่าได้รับค่าจ้างจากนายภูมิพัฒน์ (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้รับเหมาก่อสร้าง และทราบว่าบุคคลผู้เป็นเจ้าของได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของนายภูมิพัฒน์ และได้นำมาจ่ายให้กับพวกตนเป็นเงินสด โดยมีหมายเลขโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อเจ้าของที่แท้จริงต่อไป
พ.ต.อ.ชนะพณ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และผู้บังคับบัญชา ที่เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานต่างด้าวที่ผิด กฎหมาย รวมถึงบังคับใช้กฎหมายในการตรวจสอบคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบอาชีพและพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยต้องยึดถือปฏิบัติตนให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการขจัดการลักลอบใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายต่อไป หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแส หรือพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน สตม.1178 หรือแจ้งได้ที่ ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดเลยได้ทุกจุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี