วันนี้(29 เมษายน 2556) ที่โรงแรมเพชรรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เปิดมหกรรมรณรงค์สัญจร “การกำจัดโรคพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อน้ำดี ปี 2556” จัดโดยกรมควบคุมโรค และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) ผู้บริหารบริษัท จี เอ็ม เอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ไมค์ ภิรมย์พร อาจารย์วสุ ห้าวหาญ เพื่อรณรงค์สร้างกระแสให้ประชาชนกินปลาสุก ลดการป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งท่อน้ำดี
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก ได้รับรองว่า โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และ ยังได้รับรองว่าการเป็นพยาธิใบไม้ตับเรื้อรัง หรือมีการติดเชื้อซ้ำบ่อยๆในระยะยาว จะเป็นสารก่อมะเร็ง เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดีได้ จากการสำรวจสถานการณ์ความชุกของโรคพยาธิใบไม้ตับในประเทศไทย พบได้เฉลี่ยร้อยละ 9 โดยพบในภาคอีสานสูงที่สุดร้อยละ 18 บางหมู่บ้านมีอัตราความชุกสูงมากถึงร้อยละ 85 รองลงมาคือภาคเหนือพบร้อยละ 10 บางหมู่บ้านมีอัตราความชุกสูงร้อยละ 46
ทั้งนี้ ความชุกของพยาธิใบไม้ตับ สอดคล้องกับข้อมูลการเกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดี จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าปี 2548 เป็นปีที่คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีสูงที่สุด ประมาณ 28,000 ราย ข้อมูลล่าสุดใน ปี2554 มีผู้เสียชีวิต 14,314 ราย มากที่สุดคือภาคอีสาน 7,593 ราย รองลงมาคือภาคเหนือ 2,638 ราย จึงถือได้ว่าโรคนี้เป็นปัญหาสำคัญและรุนแรงอย่างมาก ก่อให้เกิดความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากผู้ป่วยมักอยู่ในช่วงอายุ 45-55 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน เป็นเสาหลักครอบครัว กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องเร่งรณรงค์ควบคุมป้องกัน ไม่ให้คนไทยใช้ชีวิตร่วมกับพยาธิใบไม้ตับ ในขณะที่อีก 2 ปี ข้างหน้า ปี พ.ศ.2558 จะครบ 100 ปี ที่มีรายงานพบผู้ป่วยพยาธิใบไม้ตับในประเทศไทย
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า สาเหตุหลักของโรคมะเร็งท่อน้ำดี เกิดจากค่านิยมกินปลาน้ำจืดเกล็ดขาวแบบดิบๆหรือสุกๆดิบๆ เช่น ปลาตะเพียน ปลาขาวน้อย ปลาแก้มช้ำ ปลาสร้อย ปลากระสูบ โดยทำเมนูก้อยปลาดิบ พล่าปลาดิบ ปลาส้ม ปลาร้าดิบ หรือปลาร้าหมักไม่ถึง 6 เดือน โดยปลาดิบเหล่านี้จะมีตัวอ่อนพยาธิใบไม้ตับอาศัยอยู่ที่เนื้อปลาและเกล็ดใต้ครีบปลา เมื่อคนกินอาหารที่ปรุงจากปลาดิบเข้าไปจะได้รับตัวอ่อนพยาธิระยะติดต่อเข้าไป เมื่อถึงลำไส้เล็ก ตัวอ่อนพยาธิจะไชออกจากถุงหุ้มตัว เดินทางไปตามทางเดินน้ำดี ถึงท่อน้ำดีส่วนปลายที่อยู่ในตับเจริญเป็นตัวเต็มวัย และวางไข่พยาธิขับออกมากับน้ำดีและปนอุจจาระออกมา ผู้ที่เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ หากไม่ถ่ายอุจจาระลงส้วม จะแพร่ไข่พยาธิลงไปในดินและน้ำ และเข้าไปอยู่ในเนื้อหรือที่เกล็ดของปลาน้ำจืดเป็นวงจรต่อเนื่อง
“วิธีการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับ ที่สำคัญที่สุดและได้ผลดีที่สุด คือการกินปลาที่ปรุงสุก 100 เปอร์เซนต์ด้วยความร้อน และถ่ายอุจจาระลงส้วม หลีกเลี่ยงการถ่ายลงน้ำ หรือไปทุ่ง หากจำเป็นให้ขุดหลุมฝังกลบ หรือส้วมมือถือ แล้วฝังในดินเมื่อเสร็จกิจ ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่หรือแอลกกฮอล์เจลเมื่อออกจากห้องน้ำห้องส้วมหลังถ่ายอุจจาระและก่อนรับประทานอาหาร ล้างผักสดให้สะอาด ควรตรวจหาไข่หนอนพยาธิในอุจจาระอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากตรวจพบหนอนพยาธิต้องกินยารักษาทุกครั้งให้หายขาด และจะต้องไม่กินดิบซ้ำอีก โดยกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าลดอัตราป่วยจากพยาธิใบไม้ตับ ในประชาชนที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือให้เหลือไม่เกิน ร้อยละ 5 และลดอัตราตายจากมะเร็งท่อน้ำดีให้เหลือไม่เกิน 20 ต่อแสนประชากร ภายในปี 2564” นายแพทย์ ชลน่าน กล่าว
ทางด้านนายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดที่พบผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีอันอับต้นๆของประเทศ ในปี พ.ศ.2554 พบผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดี 1,087 ราย และในปี พ.ศ.2555 พบผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับ จำนวน 773 ราย ซึ่งคุณไมค์ ภิรมย์พร นักร้องชื่อดัง ก็เคยมีประสบการณ์ตรงเรื่องนี้ เนื่องจากมีคนในครอบครัวเสียชีวิตจากมะเร็งท่อน้ำดีอันเนื่องจากการเป็นพยาธิใบไม้ตับ และได้อาสาร่วมรณรงค์กับกระทรวงสาธารณสุข รณรงค์อีกครั้งให้คนไทยเลิกกินปลาดิบหรือสุขถ้วนหน้า กินปลาสุก ลดมะเร็งท่อน้ำดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี