จนท.ยึดคลังแสง

‘ระเบิด-ปืน’เพียบ

บิ๊กแป๊ะสันนิษฐาน

เตรียมป่วนการเมือง

ทหาร-ตชด.ยึดคลังแสงอาวุธสงคราม คาบ้านพักใน อ.แม่สอด จ.ตาก โร่คุมตัว 2 ชายไทย เค้นสอบขยายผล ด้าน ผบ.ตร.หวั่นถูกใช้สร้างสถานการณ์เชิงสัญลักษณ์24มิ.ย.แต่ไม่ฟันธงเชื่อมโยงกลุ่มใด

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมกับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 346 อ.แม่สอด ตรวจยึดอาวุธสงครามภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 2 ต.แม่ตาว อ.แม่สอด โดยพบปืนกลขนาด .62 รวม 2 กระบอก , ปืนเอ็ม 16 รวม 4 กระบอก , อาวุธปืนเอ็ม 79 รวม 3 กระบอก , อาวุธปืนอาก้า รวม 13 กระบอก , อาวุธปืนเล็กยาว 10 กระบอก และอาวุธปืนอื่นๆ รวมทั้งหมด 33 กระบอก นอกจากนี้ ยังพบลูกระเบิด 2 ลูก พร้อมด้วยพานท้ายปืน และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่งกับชุดเครื่องมือควบ และลูกเลื่อนปืน 33 ชุด

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชาย 2 คน เป็นชาวไทยที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ โดยควบคุมตัวไปที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน และจะนำไปยังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด เพื่อทำการสอบสวนขยายผล อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตรวจสอบอาวุธปืนล็อตนี้มานาน และเมื่อตรวจสอบข้อมูลชัดเจนแล้ว จึงเข้าจับกุมทันที ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธของชนกลุ่มน้อย เนื่องจากพื้นที่จับกุมใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ขณะนี้ทาง พล.ต.อุกฤษฎ์ นุตคำแหง ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร และ พล.ต.ต.นพพล ชาติวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ได้เดินทางไปตรวจสอบแล้ว

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวยอมรับว่า ได้รับรายงานว่าทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน เข้าตรวจยึดอาวุธปืนขนาดต่างๆ รวม 33 กระบอก ได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมกับมีการควบคุมตัวชาย 2 คน ไว้สอบสวนขยายผล เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีการเตรียมการไว้ใช้เคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ทางการเมือง เนื่องจากสอดคล้องกับการข่าวของฝ่ายความมั่นคง ที่รายงานการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่เตรียมฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายทางการเมือง แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มใด โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการในพื้นที่

อย่างไรก็ดี ได้กำชับตำรวจในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะ 10 จังหวัดเสี่ยง อาทิ ขอนแก่น แพร่ นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ฯลฯ เฝ้าระวังการเคลื่อนไหวการชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ เนื่องจากกังวลว่าจะมีการนัดชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ในวันดังกล่าว จึงฝากเตือนกลุ่มเยาวชน หรือแกนนำที่เคลื่อนไหว ว่าอาจจะถูกพิจารณาดำเนินคดีเหมือนแกนนำทางการเมืองในอดีตได้ หากพบการกระทำผิดกฎหมายที่ชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด