"พ.ต.ท.กรวัชร์"อธิบดีDSIคนใหม่ เข้าทำงานวันแรก เน้นลุยคดีฟอกเงิน-เลี่ยงภาษี เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจ"มึนอ"ภรรยา"บิลลี่"และแจ้งคืบหน้าคดีพรุ่งนี้ ชี้ขอดูสำนวนก่อนมีความเห็นแย้งหรือไม่
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าสักการะพระพุทธวิชัยอภัยมารนิราศ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเยี่ยมชม "ตู้ดีเอสไอ ปันสุข ปันนำ้ใจ"
อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึง แนวทางการทำงานว่า ในการมารับตำแหน่งใหม่มุ่งเน้นให้ความสำคัญในส่วนของคดีที่มีผลกระทบในวงกว้าง คือ คดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก และในส่วนของประเทศไทย UN รายงานมูลค่าความเสียหายจากอาชญากรรม มีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งเป็นกองฟอกเงินเพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ส่วนเรื่องที่สองคือการให้ความสำคัญกับคดีที่เกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษี เนื่องจากการรั่วไหลของเงินภาษีจำนวนมาก กรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งมีพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการกับการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับภาษีทั้งพระราชบัญญัติศุลกากร พระราชบัญญัติสรรพากรและพระราชบัญญัติสรรพสามิต นำมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินคดีแต่ละประเภท เช่น คดีรถหรู ซึ่งมีการกระทำความผิดหลบเลี่ยงภาษีและช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่ามีการวิ่งเต้นคดี ยืนยันว่าเป็นเพียงข่าวแต่ฝากบอกไปยังผู้ที่คิดจะวิ่งเต้น ถ้ามีคนอ้างว่า จะเอาเงินมาให้ผม เพื่อล้มคดี ว่าหน้าตาอย่างผมมีคนเดียว จำง่าย และหากมีข้าราชการทุจริตหรือเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
โดยในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย) มีกำหนดลงพื้นที่ให้กำลังใจ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของ นายพอละจิ รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่บ้านพักในตำบลป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อแจ้งความคืบหน้าของคดี ให้กำลังใจมึนอ เพราะในช่วงที่ผ่านมามึนอ พยายามส่งสัญญาณมาที่ตนเองตลอดแต่ตนเองอยู่ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากดังนั้นเมื่อกลับมาในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตนจึงจะต้องไปแจ้งความคืบหน้าคดีและไปให้กำลังใจ และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับมึนอและครอบครัว
สำหรับความคืบหน้าในคดีนี้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สรุปสำนวนความเห็นสั่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการแล้ว ซึ่งพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในบางข้อหา ดังนั้น ตนในฐานะอธิบดีก็จะขอดูรายละเอียดในสำนวนในข้อหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่ แต่ยืนยันว่าในส่วนของพยานหลักฐานยังคงมั่นในหลักฐานทางวิทย์นิติวิทยาศาสตร์ จากการตรวจดีเอ็นเอด้วยระบบไม่โตคอนเรียเป็นเป็นสิ่งที่ใช้กันทั่วโลก
สำหรับประวัติของ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร เป็นชาว จ.สุโขทัย เกิดวันที่ 9 มี.ค.2504 จบการศึกษารัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รับราชการวันบรรจุเข้ารับราชการ 1 ต.ค.2522 มีผลงานสำคัญตั้งแต่สมัยที่ยังปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น คลี่คลายคดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร และสามารถจับกุมกำนันเป๊าะ และรื้อฟื้นคดีการฆาตกรรม นายห้างทอง ธรรมะวัฒนะ
ส่วนผลงานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีผลงานโดดเด่น เช่น กรณีขบวนการบุกรุกพื้นที่ อ.กะปง จ.พังงา ที่มี นายวัฒนา อัศวเหม เกี่ยวข้องด้วย รวมถึงกรณีนายทุนต่างชาติบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อ.เกาะยาว จ.พังงา และผลงานที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากก็คือ การดำเนิการคดีรถหรู หรือขบวนการนำรถยนต์ใช้แล้วเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจดประกอบเป็นรถยนต์จากอุปกรณ์ชิ้นส่วนเก่า และคดีการหายตัวไปของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี