‘ผับ-อาบอบนวด’เปิด1กค.
เสนอศบค.ไฟเขียว
ให้ต่างชาติเข้าไทยแต่กักตัว
เน้นนักลงทุน-ผู้เชี่ยวชาญ
จับคู่ปท.ท่องเที่ยวรอสค.
สธ.ต่อยอดวิจัยสู้โควิด
ไร้ติดเชื้อในปท.1เดือน
ข่าวดีต่อเนื่องไทยไร้ผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศครบ 1 เดือน พบป่วยใหม่ 1 ราย มาจากฟิลิปปินส์ในที่กักตัวของรัฐ คณะกก.เฉพาะกิจเสนอคลายล็อก 5 กิจการ กิจกรรม เฟส 5 “ผับ-บาร์-โรงเหล้า-ลานเบียร์-โอเกะ อาบอบนวด” 1 กรกฎาคม วางเงื่อนไข เปิดแค่เที่ยงคืน จำกัดโต๊ะละไม่เกิน 5 คน งดเชียร์เบียร์ ต้องลงทะเบียนเข้า-ออกไทยชนะ-ผู้พิทักษ์ไทยชนะ ส่วนร้านเกมส์-อินเตอร์เนต จำกัดอายุคนใช้บริการ กำหนดเวลา จ่อเสนอ ศบค.ชุดใหญ่เคาะ 29 มิถุนายน สธ.ต่อยอดวิจัยภูมิคุ้มกันในเลือดผู้ป่วยโควิดที่รักษาหายแล้วหลังวัคซีนคืบหน้า ทดลองในคนสิ้นปี
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช) พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการ สมช. ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด – 19 เพื่อพิจารณา การเปิดให้กิจการและกิจกรรมที่เหลือในเฟส 5 ประกอบด้วย ผู้ประกอบการผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด โรงน้ำชา ร้านเกมส์ โดยเป็นการระดมความคิดเห็นรอบสุดท้ายว่าจะเปิดกิจการได้หรือไม่ เพื่อให้ทันวันที่ 1 กรกฎาคม หลังคณะทำงานของพล.อ ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ประธานคณะทำงานพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาด โควิด-19 ได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนข้อเรียกร้อง รวมทั้งมาตรการป้องกันของกลุ่มธุรกิจดังกล่าว
กก.เฉพาะกิจปลดล็อก5กิจการเฟส5
หลังประชุม พล.อ.สมศักดิ์เปิดเผยว่า กิจกรรมและกิจการบางประเภทที่จะได้รับการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 จะประกอบด้วย สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต สถานบริการอาบอบนวดและโรงน้ำชา ซึ่งจะเปิดบริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมนี้ โดยจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการที่ผ่านมา ได้วางมาตรการเฝ้าระวังป้องกันเป็นขั้นตอน และจะนำข้อหารือทั้งหมดในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ รายงานที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชุดใหญ่วันที่ 29 มิถุนายน ถ้าที่ประชุมฯเห็นชอบตามข้อเสนอ จะอนุญาตให้กลับมาเปิดบริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จากนั้นจะเหลือกรณีของสนามกีฬาที่มีคนเข้าชมการแข่งขันเท่านั้นที่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้
จับคู่ปท.ท่องเที่ยวเริ่มได้ส.ค.
เลขาฯสมช.กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯหารือถึงการจับคู่ประเทศที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดี เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกัน (ทราเวิล บับเบิล) เบื้องต้น คาดว่าจะเกิดขึ้นไม่เร็วกว่าเดือนสิงหาคม เนื่องจากต้องพิจารณาปัจจัยการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ความพร้อมของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจประเทศต้นทาง
ถกเคาะต่อ-เลิกพรก.ฉุกเฉิน25มิย.
ส่วนการพิจารณาหลังครบกำหนดการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน วันที่ 30 มิถุนายนนั้น เลขาฯสมช.เผยว่า จะต่ออายุการบังคับใช้อีกหรือไม่นั้น สมช.จะประชุมเรื่องนี้วันที่ 25 มิถุนายน แล้วจะนำผลการพิจารณารายงานต่อ ศบค.วันที่ 29 มิถุนายน ก่อนเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม. )วันที่ 30 มิถุนายนต่อไป
ติดเชื้อ1จากฟิลิปปินส์-30วันไทยไร้ป่วย
จากนั้นนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยรายวันว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 1 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,156 ราย หายป่วยสะสม 3,026 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 58 ราย และวันเดียวกันนี้ครบ 1 เดือนที่ไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศ สำหรับผู้ป่วยรายใหม่เป็นชายไทย อายุ 31 ปี เป็นพนักงานร้านอาหาร เดินทางมาจากฟิลิปปินส์ เข้าประเทศไทยวันที่ 17 มิถุนายน ผลตรวจพบเชื้อวันที่ 22 มิถุนายน แต่ไม่มีอาการ สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 9,353,739 ราย และเสียชีวิต 479,806 ราย
เน้นลงทะเบียนไทยชนะ-ผู้พิทักษ์ฯ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า วันเดียวกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พิจารณาร่างผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมที่ยังไม่ได้รับหารผ่อนคลายในระยะที่ 5 ใน 2 ประเด็นสำคัญคือ 1.เรื่องการลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ของกิจกรรมและกิจการที่ต้องลงทะเบียนเข้า-ออกนอกสถานที่ เพื่อให้การติดตามมีประสิทธิภาพ และเพิ่มมาตรการใช้แอพพลิเคชั่นผู้พิทักษ์ไทยชนะ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตรวจประเมินการประกอบกิจการ ป้องกันการแอบอ้างหน่วยงานไปหาผลประโยชน์
ดึงนวัตกรรมให้บริการรูปแบบใหม่
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการคัดกรองไข้ ไอ หอบเหนื่อย จาม หรือเป็นหวัด สำหรับพนักงานบริการ และผู้ใช้บริการและรวยงานหน่วยงานรับผิดชอบ กรณีพบผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ขณะเดียวกันให้พิจารณาพัฒนานวัตกรรม เช่น จองคิวแบบออนไลน์ ระบบการเรียนการสอน เพื่อให้บริการรูปแบบใหม่ในระยะยาว นำไปสู่การป้องกันโรค โดย ศปก.จังหวัดและ ศปม. ต้องติดตามและรายงานให้ ศบค.ทราบด้วย
ผับบาร์โรงเบียร์เปิดได้ไม่เกินเที่ยงคืน
โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังพิจารณาเรื่องกิจกรรมกิจการที่มีความเสี่ยงสูง และกระทบการขับเคลื่อนธุรกิจน้อย แต่มีผู้เดือดร้อนรวมกลุ่มกัน เช่น อาชีพนักร้อง นักดนตรี ผับ บาร์ คาราโอเกะ ผู้ทำงานบริการในอาบ อบ นวดซึ่งศบค.รับฟังทุกเสียง ผ่านคณะกรรมการหลายชุดโดยประเภทกิจการกิจกรรมที่พิจารณาให้ได้รับการผ่อนคลาย ประกอบด้วย ผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา หมายถึงโรงเรียนเปิดได้ทั้งหมด ห้างสรรพสินค้า-คอมมูนิตี้มอล เปิดให้บริการได้ตามปกติ โดยไม่จำกัดเวลา
สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบการคล้ายการบริการ เช่น โรงเบียร์ โรงเหล้า ลานเบียร์ ร้านอาหารที่มีดนตรี (Pub &Restaurant) ซึ่งต้องมีใบอนุญาตประกอบการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยจะให้บริการได้ไม่เกิน เวลา 24.00น.ในทุกกรณี และต้องมีระยะห่าง 1 เมตร จำกัดผู้ใช้บริการตามขนาดพื้นที่ 4 ตารางเมตรต่อคน นั่งรวมกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน และพนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมทั้งต้องลงทะเบียนแอพพลิเคชั่นไทยชนะ เข้าและออก งดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบเช่นพนักงานเชียร์เบียร์ และโปรโมชั่นลดราคารวมทั้งต้องไม่ยินยอมหรือปล่อยให้ลูกค้านำสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาบริโภค และงดนั่ง ร้องเพลง เต้นหรือยินยอมให้เต้นกับลูกค้า งดเต้นนอกพื้นที่บริเวณโต๊ะและที่นั่ง หลีกเลี่ยงการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รูปแบบเหยือก ถ้วย หรือภาชนะที่ใช้ร่วมกัน ติดตั้งกล้องวงจรปิดบันทึกข้อมูลมากกว่า 1 เดือน
ร้านเกมส์-เน็ตจำกัดอายุเวลาเข้า-ออก
นพ.ทวีศิลป์แถลงต่อว่า ส่วนร้านเกมและร้านอินเทอร์เน็ต ในพื้นที่กทม.มี 2,000 ร้าน และต่างจังหวัด 2,000 ร้าน จะจำกัดเปิดการเข้าและออกตามอายุและช่วงเวลา โดยช่วงอายุน้อยกว่า 15 ปี ในวันจันทร์-วันศุกร์เข้า-ออกได้ตั้งแต่เวลา 14.00-20.00 น. วันหยุดตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. อายุ 15-18 ปี ในวันจันทร์-วันศุกร์ เข้า-ออกได้ ตั้งแต่เวลา 14.00-22.00 น. ส่วนวันหยุดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปใช้บริการได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยจำกัดเวลาให้บริการในระบบ 2 ชั่วโมงต่อรอบและพักทำความสะอาด 15 นาที
อาบอบนวดกำชับล้างอ่างทุกครั้ง
ขณะที่สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวดและโรงน้ำชา โดยมาตรการควบคุมหลักต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นขณะอาบน้ำ เว้นระยะนั่ง-ยืน 1 เมตร ยกเว้นขณะอาบน้ำ และจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดพนักงานเป็นระยะ ทำความสะอาดห้องอาบน้ำและอ่างน้ำเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมใหญ่ศบค.วันที่ 29 มิถุนายนจะพิจารณาอนุมัติ มาตรการผ่อนคลายและจะเริ่มได้วันที่ 1 กรกฎาคม
คลายล็อคต่างชาติ2กลุ่มเข้าปท.
ส่วนประเด็นที่ 2 นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาผ่อนคลาย การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของชาวต่างชาติคือ 1. กลุ่มเป้าหมายที่ตอบรับมาตรการกักตัวในสถานที่รัฐ 14 วัน ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ซึ่งเข้ามาได้เลยตั้งแต่วันนี้ ( 24 มิถุนายน) เป็นต้นไป ประกอบด้วย กลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน ส่วนแรงงานฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญ คนต่างด้าว กรณีเป็นครอบครัวของคนไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มคนที่อยากเข้ามารักษาพยาบาลในไทย เดินทางเข้ามาได้วันที่ 1 กรกฎาคม และอยู่ในพื้นที่กทม. ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย หรือตามความพร้อม 2.กลุ่มเป้าหมายที่ใช้มาตรการคุมไว้สังเกต ซึ่งเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน เดินทางเข้ามาในระยะสั้น และเป็นแขกของรัฐบาล ส่วนราชการ ขึ้นอยู่กับความเห็นชอบของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณามาตรการผ่อนคลายฯ และเมื่อเข้ามาแล้วต้องตรวจและปลอดโควิดทั้งจากประเทศต้นทางและเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยจะต้องมีทีมติดตามด้านการแพทย์และสาธารณสุข ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้เดินทางตามโครงการการจับคู่ประเทศท่องเที่ยวนั้น มี 2 รูปแบบคือ 1.แบบมาตรการ วิลล่า ควอรันทีน (ที่พักแบบส่วนตัวสำหรับกลุ่มหรือครอบครัว) เริ่มวันที่ 1 สิงหาคม และ 2.แบบผ่อนคลายมาตรการสถานที่กักตัวของรัฐ เริ่มดำเนินการเมื่อพร้อม
สธ.ลุยวิจัยหาภูมิคุ้มกันคนติดเชื้อ
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข แถลงถึงโครงการวิจัยภาวะภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยโควิด-19 และผู้มีความเสี่ยงในคนไทยว่า การพิชิตโควิด-19 ร้อยเปอร์เซ็นต์คือการคอยวัคซีน ตอนนี้คืบหน้าเป็นลำดับโดยสถาบันวัคซีนร่วมกับมหาวิทยาลัยแพทย์ บริษัทเอกชน จากการรายงานมีการทดลองกับสัตว์ระยะแรกหากทดลองในสัตว์เรียบร้อยจะเริ่มทดลองในคน คาดว่าจะทดลองในคนได้ช่วงปลายปี ระหว่างรอวัคซีน กระทรวงสาธารณสุขได้วิจัยเพิ่มข้อมูลช่วยรับมือโควิด-19 โดยวิจัยในผู้ติดเชื้อนำเอาเลือดมาวิจัยดูว่าคนเหล่านั้นมีภูมิคุ้มกันที่ได้รับการเชื้อถือทางการแพทย์หรือไม่ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะให้ทุนมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ดำเนินการร่วมกับกรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ เพื่อศึกษาว่าคนที่หายแล้วจะมีภูมิคุ้มกันติดตัว ไม่กลับมาเป็นอีกได้หรือไม่ ระยะเวลาวเท่าใด เรามีผู้ติดเชื้อที่หายแล้วประมาณ 3,000 กว่าคน และเสียสละให้วิจัยเรื่องภูมิคุ้มกันเป็นข้อมูลสำหรับคนทั้งโลก หากพบว่าคนที่เป็นแล้วมีภูมิคุ้มกันก็จะเป็นประโยชน์ พวกเขาเป็นฮีโร่ที่มาทดลองการวิจัยนี้
วิษณุรับเลิกพรก.กระทบ3เรื่องสู้โควิด
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อหรือไม่ว่า เลขาฯ สมช. ในฐานะประธานกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า จะพิจารณาร่วมกับ 4 ฝ่ายคือ สาธารณสุข เศรษฐกิจ ปกครอง และฝ่ายมั่นคง จากนั้นจะรายงานพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม นายกฯก็จะพิจารณาและนำเข้าที่ประชุม ศบค. วันที่ 29 มิถุนายน และนำเข้าที่ประชุมครม.วันที่ 30 มิถุนายน ส่วนที่เป็นห่วงกันว่า ถ้ายกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วจะส่งผลกระทบกับศูนย์กักกันตัวของรัฐนั้น ยอมรับว่าก็มีส่วนบ้าง มีผลกระทบจริงๆใน 3 ประเด็นคือ อำนาจกักตัว สถานที่ที่ใช้กักตัว และค่าใช้จ่าย เพราะตอนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเราจะคุม 3 เรื่องนี้ได้ แต่ถ้าไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วไปใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ต้องไปดูว่าสั่งการเรื่องต่างๆได้หรือไม่ ถ้าพูดก็คือได้ แต่สั่งได้เป็นคนๆ เช่น สงสัยใครก็ดึงไปวัดไข้เป็นคนๆ แต่ถ้าจะสั่งการภาพรวมยาก ส่วนประเด็นเรื่องสถานที่หากในอนาคตมีเครื่องบินมาลง เช่น มีคนลงมา 200 กว่าคนจะทำอย่างไร และจะพาไปไหน และเรื่องค่าใช้จ่ายดูแลคนเข้าสถานกักกัน 14 วัน คนละ 3 หมื่นกว่าบาท หากต้องรักษาต้องใช้ค่าใช้จ่ายคนละ 1 ล้านใครจะรับผิดชอบ
“วันนี้เราใช้ทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อควบคู่กันไป และได้สอบถามอธิบดีกรมควบคุมโรค ว่าภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พนักงานตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะบูรณาการกันได้อย่างไร เพราะตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อให้อำนาจ รมว.สาธารณสุขตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรค ที่แล้วมาแต่งตั้งไปแล้วหลายหมื่นคน ทุกคนให้ความร่วมมือดี เพราะมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินกำกับ หากยกเลิกไป เหลือเพียง รมว.สาธารณสุขสั่งการ กระบวนการที่ต้องใช้คนจำนวนมาก เช่น ตั้งด่านหรือรับเครื่องบิน 1 ลำ จะสนธิกำลังกันได้อย่างไร เพราะวันนี้ที่สนธิกำลังกันเพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน”นายวิษณุกล่าว
เจโทรทาบไทยเพิ่มที่กักตัวทางเลือก
นายวิษณุเปิดเผยหลังหารือกับนายทาเคทานิ อัทสึชิ (Mr.TAKETANI Atsushi) ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ กรุงเทพฯ (เจโทร)ว่า เจโทแจ้งให้ทราบว่าอยู่ระหว่างประสานงานและหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ กรณีไทยจะพิจารณาผ่อนปรนให้นักธุรกิจญี่ปุ่นที่จำเป็นต้องติดต่อธุรกิจหรือเข้ามาเป็นผู้บริหารในประเทศไทยมีแนวทางปฏิบัติชัดเจนอย่างไร ก่อนเสนอให้ศบค.พิจารณา
แนวทางปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ เจโทรแจ้งว่ามีนักธุรกิจญี่ปุ่นต้องการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยหลายพันคน ตนแจ้งว่าหากเราเปิดประเทศจะให้นักธุรกิจเข้ามา แต่จำกัดจำนวนวันละไม่เกิน 100 คนและต้องมีแนวงทางปฏิบัติชัดเจน ส่วนจะกักตัว 14 วันหรือไม่นั้น เจโทรบอกว่านักธุรกิจที่จะเข้ามามี 2 ประเภท คือกลุ่มที่เข้ามาเป็นผู้บริหาร หรือเข้ามาทำงานระยะยาวอยู่เป็นปี กลุ่มนี้พร้อมกักตัวตามข้อกำหนด 14 วัน แต่มีอีกกลุ่มที่เดินทางเข้ามาติดต่อธุรกิจระยะสั้นเพียง 2 - 3 วัน ถ้าหากเรามีข้อยกเว้นให้ หรือมีข้อกำหนดที่เป็นหลักปฏิบัติพิเศษเขาก็ยินดี นอกจากนี้ เจโทรต้องการให้ไทยเพิ่มสถานกักตัวทางเลือก (Alternative State Quarantine) ซึ่งเป็นตัวเลือกในการกักตัวของนักธุรกิจต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ปัจจุบันมี 900 ห้องเท่านั้น ซึ่งตนแจ้งไปว่าเราพร้อมเพิ่มจำนวนได้ถ้าจำเป็น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี