ตำรวจกองปราบฯ พบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาเชื่อมโยงคนใกล้ชิด“บรรยิน”วางแผนช่วยลูกพี่แหกคุก เล็งขอหมายจับเพิ่ม ขณะที่ อดีต สส.นครสวรรค์ พร้อมเข้าพบพนักงานสอบสวนหลังถูกโยงในคดีดังกล่าว ด้าน“หน่วยหนุมาน-ราชทัณฑ์” คุมเข้ม“บรรยิน”พาขึ้นศาลพระโขนงคดีฆ่า’เสี่ยชูวงษ์’
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า ขณะนี้เรียกสอบพยานหลายปากที่เกี่ยวข้องกับคดีการวางแผนแหกคุกช่วย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีอาญาหลายสำนวนไปแล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีพยานแวดล้อมที่อยู่ในส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา 2 คน ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งทั้งหมดให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า พ.ต.ท.บรรยินและพวกพยายามวางแผนก่อเหตุแหกคุกจริง
นอกจากนี้จาก ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้งสองคน และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่ามีเส้นทางการเงินต่อเนื่องไปถึงกลุ่มบุคคลอื่นนอกเหนือจากกลุ่มผู้ต้องหาที่จับกุมตัว และจะต้องขอออกหมายจับต่อไป ส่วนพยานที่กองปราบได้ออกหมายเรียกไปก่อนหน้านี้ทุกรายได้ประสานมายังพนักงานสอบสวนแล้ว
มีรายงานจากพนักงานสอบสวนว่า หมายเรียกพยานในส่วนของ พ.ต.ท.นุกูล แสงสิริ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และทนายความที่ไปประกันนายโจ ให้มาพบในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ เวลา 10.00-11.00 น. โดย ล่าสุด เฉพาะในส่วนทนายความ ได้แจ้งกลับมายังพนักงานสอบสวนแล้วว่าอาจขอเลื่อนไปอีก 1-2 วัน ส่วนนายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ บุตรชาย ของพ.ต.ท.บรรยิน ให้มาพบในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00-11.00 น.
เช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ พร้อม หน่วยหนุมานของกองปราบปรามเบิกตัว พ.ต.ท.บรรยิน จากเรือนจำบางขวางมาศาลอาญาพระโขนง ถนนสรรพวุธ กทม.เพื่อสืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดำ ที่ 4915/2559 ที่นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยา นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อดีตนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศกับพวกและอัยการ (โจทก์ที่ 5 ) รวม 5 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯลฯเหตุเกิดเมื่อปี 2558
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศโดยรอบศาลอาญาพระโขนงพบว่าได้เข้มงวดการรักษาความปลอดภัย
จัดกำลังตำรวจทั้งพื้นที่ สน. บางนา , ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 รวมทั้งกองปราบปราม ประจำทางเข้าและทางออก ของศาล อีกทั้งการสืบพยานโจทก์โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องร่วมฟังการสืบพยานและไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบริเวณพื้นที่ศาลเพื่อทำข่าวและถ่ายภาพ เพื่อความปลอดภัย
สำหรับคดีนี้ ศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยทุกวันอังคารและพุธ โดยนัดสืบพยานโจทก์ครั้งต่อไปวันที่ 30 มิถุนายนนี้
ด้านนายเอนก คำชุ่ม ทนายความให้ข้อมูลว่า การสืบพยานโจทก์กำหนดขึ้นในเดือนเมษายนและพฤษภาคมแต่ติดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ศาลจึงเลื่อนนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก เป็นวันที่ 2, 9, 16, 17, 23 มิถุนายน ซึ่งสืบพยานไปแล้วประมาณ 13 ปากส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญเช่น แพทย์ เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลสิรินธร เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ตรวจสมรรถภาพรถยนต์ส่วนวันนี้(24 มิ.ย.) นำสืบพยานโจทก์รวม 2 ปาก คือ ตำรวจ 2 นาย ทำหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์คันเกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่เก็บวัตถุพยานต่างๆในรถยนต์ รวมถึงคราบเลือด ส่วนพยานคนในครอบครัวที่ไม่เชื่อว่า นายชูวงษ์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ คาดนัดสืบได้ในเดือนหน้า
ส่วนตัวมั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถเอาผิด พ.ต.ท.บรรยินได้ ซึ่งครอบครัวของนายชูวงษ์ ก็ไม่ได้ร้องขอกำลังตำรวจมาดูแลเป็นพิเศษ ตลอดเวลาการมาศาลเพื่อสืบพยานนัดต่างๆในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ศาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการจัดกำลังดูแลเป็นพิเศษ จึงเชื่อมั่นในศาลและตำรวจว่าจะดูแลความปลอดภั ผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมของคดีนายชูวงษ์ ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี