“ผบช.สตม.” นำแถลงสืบ สตม.ลุยจับพ่อชาวเมียนมาหื่น ข่มขืนลูกสาวตัวเองต่อเนื่อง 4 ปี แถมทำร้ายร่างกาย-ขู่ฆ่า-หนีกลับประเทศ
26 มิถุนายน 2563 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ
ทั้งนี้ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย พ.ต.อ.ชาติชาย ตันติวุฒิวร ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.ท.พญา อ่อนศรีประไพ รอง ผกก.1 บก.สส.สตม., ว่าที่ พ.ต.ท.วิชัย สังข์สอน สว.กก.1 บก.สส.สตม., ร.ต.อ.ภูริศ คำหมื่น รอง สว.กก.1 บก.สส.สตม. พร้อมกำลังได้จับกุมนายหม่อง เอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ. 516/2561 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้อาวุธ” ที่บริเวณบริษัทย่านหมู่ 4 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณกลางเดือนธันวาคม 2557 ขณะที่ ด.ญ.บี สัญชาติเมียนมา (ขณะนั้นอายุ 10 ปี) ผู้เสียหายซึ่งพักอาศัยอยู่กับผู้ต้องหาซึ่งเป็นบิดาของตนอยู่ที่บ้านพักที่ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุ ขณะที่มารดาของผู้เสียหายไม่อยู่ที่บ้านพัก ผู้ต้องหาได้เรียกให้ผู้เสียหายไปพบ โดยขณะนั้นผู้ต้องหาได้ถือมีดปลอกผลไม้อยู่ในมือ จากนั้นได้ใช้มือปิดปากผู้เสียหาย บอกให้เงียบ และข่มขู่ว่าหากไม่เงียบจะใช้มีดฆ่าให้ตาย จากนั้นผู้ต้องหาได้จับผู้เสียหายนอนลงบนแคร่ไม้ บริเวณที่เกิดเหตุ และได้ดึงผ้าถุงอาบน้ำของผู้เสียหายออก แล้วผู้ต้องหาได้นำอวัยวะเพศของผู้ต้องหาสอดใส่เข้ามาในอวัยวะเพศของผู้เสียหายจนกระทั่งผู้ต้องหาสำเร็จความใคร่ และผู้ต้องหาได้บอกว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร “ถ้าแม่ทราบเรื่องนี้พ่อจะฆ่าให้หมดและพ่อจะหนีกลับพม่า”
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายก็ได้บอกมารดากับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่มารดาไม่เชื่อ หลังจากนั้นผู้ต้องหาก็ได้กระทำชำเราผู้เสียหายเรื่อยมาอีกหลายครั้ง และจะทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทุกครั้งที่ผู้เสียหายพยายามจะหลบหนี โดยจะต่อยตีเตะตามลำตัวและใบหน้า
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ผู้ต้องหาก็ได้กระทำชำเรา ผู้เสียหาย (ขณะนั้นอายุ 13 ปี 6 เดือน) อีกครั้ง และหลังจากนั้นผู้เสียหายจึงได้หนีออกจากบ้านพักที่เกิดเหตุ และได้ไปหาป้าของตนเองและเล่าเรื่องที่เกิดจากการที่ถูกบิดาของตัวเองกระทำให้ฟัง จากนั้นป้า จึงได้พาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย และต่อมาศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. โดยใช้ระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) ทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีการจับกุมมาทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งย่าน ต.นาดี อ.เมือง จว.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ไปตรวจสอบและพบผู้ต้องหาบริเวณหน้าบริษัทดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมนำตัวส่ง ร.ต.อ.พัฒนนันท์ สมนวล พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี