คลายล็อกเฟส5ต้องคุมเข้ม
ศบค.เตือนภัย
หวั่นระบาดรอบ2ซ้ำรอยจีน
สธ.ชี้ยังไว้ใจโควิดไม่ได้
จัดระบบให้ดีก่อนเปิดปท.
ห่วงห้าง-ร้านสะดวกซื้อ
การ์ดเริ่มตกเร่งปรับด่วน
ศบค.แถลงติดเชื้อ 4 ราย ในที่กักตัวรัฐ กลับจาก ซูดาน-ยูเออี ไร้ตัวเลขผู้ป่วยต่อเนื่อง 32 วัน แต่ยังวางใจไม่ได้เพราะรอบประเทศยังไม่น่าไว้ใจ ต้องปกป้องตัวเอง ต้องยอมรับตั้งเงื่อนไขผ่อนคลายเฟส5เข้มทุกมาตรการ เพราะทุกคน เชื่อมีระบาดระลอก2 แต่ยังไม่รู้ตอนไหน ยกตัวอย่างจีน ระบาดอีกรอบ ยอดป่วยทั่วโลกใกล้ทะลุ10ล้าน ย้ำไม่ปล่อยนักท่องเที่ยวเข้า จะเปิดรับกลุ่มธุรกิจ-นักลงทุนที่ยอมรับระบบกักตัว-กับที่คุมไว้สังเกตอาการ ด้าน ผู้ตรวจฯกระทรวงดีอีเอส ห่วง ห้าง-ซูเปอร์มาร์เก็ต สะดวกซื้อ การ์ดเริ่มตก เตือนเร่งปรับปรุงด่วน “วิษณุ” รับเตรียมแก้ พรบ.โรคติดต่อ อาจมาตรการพรก.ฉุกเฉินไปใส่ เตรียมไว้ใช้ทดแทน สธ.ยันยังวางใจไม่ได้ โควิดเสี่ยงรีเทิร์น เตือน ถ้าจะเปิดประเทศต้องคิดวางระบบให้รอบคอบ
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์ระบาดในประเทศไทยประจำวัน รวมถึงการติดตามประเมินผลหลังผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ระบาดมาถึง 4 ระยะ
พบติดเชื้อ4รายมาจากซูดาน-ยูเออี
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า วันนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 4 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,162 ราย หายป่วยสะสม 3,040 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 58 ราย และไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศติดต่อกัน 32 วัน โดยผู้ป่วย 2 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 22 และ27ปี เดินทางมาจากประเทศซูดาน เข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐจ.สมุทรปราการ เดินทางมาถึงประเทศไทยวันที่ 24 มิถุนายน ตรวจพบเชื้อวันที่ 24 มิถุนายน รายแรกมีไข้ และอีกรายมีอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น ไอ และเจ็บคอ ส่วนรายที่ 3 และ 4 อายุ 32 ปีและ 53 ปี เดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อาชีพพนักงานนวด มาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนเข้าพักในที่กักตัวของรัฐในกทม. ตรวจพบเชื้อวันที่ 24 มิถุนายนแต่ไม่มีอาการ
สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 9,710,205 ราย และเสียชีวิต 491,783 ราย ส่วนคนไทยที่ตกค้างในต่างประเทศและจะเดินทางถึงประเทศไทยวันเดียวกันนี้ 3 เที่ยวบินทั้งหมด 852 ราย วันที่ 27 มิถุนายนมี 2 เที่ยวบิน 284 ราย
เงื่อนไขเฟส5ต้องเข้มสกัดแพร่รอบ2
ผู้สื่อข่าวถามว่า การผ่อนคลายมาตรการระยะ 5 มีเงื่อนไขมากเกินไปหรือไม่ โดยเฉพาะคนจะไปผับ บาร์ อาบ อบ นวดทั้งที่สถานการณ์ตัวเลขดีขึ้นแล้ว นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จะมั่นใจได้หรือไม่ว่าจะไม่มีติดเชื้อในประเทศ แม้ 32 วันตัวเลขเป็นศูนย์ ถือว่าดีระดับหนึ่ง แต่ในจีนไม่มีติดเชื้อ 50 วัน ก็กลับมาติดเชื้อได้ ดังนั้น จะกี่วันก็แล้วแต่ ไม่ใช่เป็นตัวบ่งบอกว่าจะไม่ติดเชื้อ ทุกคนเชื่อว่าอาจมีระบาดระลอก 2 แน่ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ สถานการณ์ทั่วโลกตัวเลขจะถึง 10 ล้านคนในไม่กี่วัน บางประเทศเสียชีวิตวันละหลายพันคน คือ สิ่งที่บอกว่าโลกยังวิกฤติ แม้ในบ้านเราสะอาด แต่รอบๆยังไม่น่าไว้วางใจ เราต้องปกป้องตัวเราเองคือ ปฏิบัติตามมาตรการ ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีสูงใช้ความรู้ที่มีเป็นสุขลักษณะส่วนตัวเป็นกองทัพป้องกันเชื้อโรคได้
“กิจกรรมต่างๆที่ผ่อนคลายในเฟสที่ผ่านมา มีการเว้นระยะห่าง แต่ระยะที่ 5 เป็นกิจกรรมที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น และสถานบันเทิงก็เป็นเหตุของการติดเชื้อช่วงแรกๆที่เรายังไม่มีมาตรการใดๆจึงเกิดการระบาด เราจึงเรียนรู้กันจะบอกว่ามากเกินไปก็เข้าใจ แต่วิถีชีวิตใหม่ต้องแทรกซึมทุกกิจการ ขอให้ยอมรับแล้วช่วยกัน”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ยังไม่รับนทท.เน้นนักธุรกิจยอมกักตัว
ส่วนกรณีอนุญาตให้นักธุรกิจเข้ามาในประเทศ รวมถึงจะอนุญาตให้คณะถ่ายทำภาพยนตร์เข้ามาลงทุนในประเทศด้วยหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ตอนนี้มีหลายประเทศโดยเฉพาะจีนที่สนใจ จัดอยู่ในกลุ่มเป้าหมายผ่อนผันมาตรการในสถานกักตัวของรัฐ ซึ่งกลุ่มนี้จะเดินทางเข้ามาระยะสั้นไม่เกินสัปดาห์ ถ้าเข้ามาแล้วรับมาตรการของเราได้ คือ การคุมไว้สังเกต โดยจะเช็คอาการก่อนเข้าประเทศ และเมื่อเข้ามาในประเทศเช็คอีก โดยจะมีแพทย์ตามประกบ และมีแผนเดินทางให้ตรวจ และก่อนออกนอกประเทศก็จะเช็คอีกครั้งเพื่อให้เกิดความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม การเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเหมือนก่อนที่โรคจะระบาด ยังไม่ให้เข้ามาอย่างแน่นอน ซึ่งวันที่ 29 มิถุนายนจะประชุมศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณา 5 เรื่องการผ่อนคลายระยะที่ 5 บุคคลที่จะเดินทางจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ การขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน มาตรการรองรับการศึกษาเด็กนักเรียนชายแดน และข้อยกเว้นมาตรการกำหนดการเว้นที่บนรถโดยสาร
เช็คอินกลุ่ม-จองคิวเที่ยวผ่านไทยชนะ
ด้านนพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงความคืบหน้าการใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะว่า ขณะนี้กระทรวงดีอีเอสจะมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นไทยชนะให้มีความสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของประชาชนมากขึ้น โดยจะสามารถเปิดช่องทางให้มีการเช็คอินแบบกลุ่มได้ สำหรับประชาชนที่เดินทางไปเป็นครอบครัวจะได้สะดวก รวมถึงจะเปิดให้จองเข้าสถานที่ต่างๆ เช่น อุทยาน หรือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เปิดรับจองผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ เพื่อจำกัดจำนวนผู้เข้าแต่ละพื้นที่ โดยรับจองผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ สามารถดำเนินการได้เพียง 40%ของพื้นที่เท่านั้นจะไปวันไหน กี่คน เวลาใด แจ้งผ่านช่องทางนี้ได้ เมื่อไปถึงเพียงยื่นหลักฐานที่จองไว้ก็เข้าพื้นที่ได้เลย เป็นการกระตุ้นมาตรการไทยเที่ยวไทย ซึ่งระบบนี้จะสามารถใช้ได้ภายในสัปดาห์หน้า
อัพเกรดเช็คเอ้าท์อัตโนมัติ
นพ.พลวรรธน์เปิดเผยอีกว่า ไม่เกิน 3-4 วันนี้ แพลตฟอร์มไทยชนะ จะมีระบบเช็กเอาท์อัตโนมัติให้ในกรณีที่ใช้ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โดยเมื่อเดินเข้าไปในเช็คอินร้านแรกแต่ลืมเช็กเอาท์ เมื่อเดินเข้าไปเช็คอินในร้านที่สอง ระบบก็จะเช็กเอาท์จากร้านแรกให้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาเช็กเอาท์ แต่ขอความร่วมมือว่าก่อนจะเดินทางออกจากห้างสรรพสินค้าขอให้ประเมินเรตติ้งมาตรการของห้างนั้นๆ
ห่วงห้าง-ร้านสะดวกซื้อ’การ์ดตก
สำหรับภาพรวมการใช้งานไทยชนะนั้น ถึงขณะนี้มีผู้ใช้งานรวมกว่า 30 ล้านคน กิจการร้านค้าลงทะเบียน 2 แสนกว่าร้าน ยอดผู้ใช้งานเวลานี้ค่อนข้างคงที่ สัดส่วนผู้ใช้งานไทยชนะสูงสุด 5 จังหวัด อยู่ในจ.ปทุมธานี นครปฐม กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และชลบุรี ซึ่งจะเป็นข้อมูลเพื่อพิจารณามาตรการผ่อนคลายระยะต่อไป
นพ.พลวรรธน์ เผยอีกว่าที่น่าเป็นห่วงคือ พบสถานที่ที่เริ่มการ์ดตกแล้วคือ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าปลีก-ส่ง รวมถึงห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ทั้งที่ ในช่วงแรกของการเปิดกิจการ สถานที่เหล่านี้เข้มงวดการปฏิบัติตนมากที่สุด และขอฝากไปยังผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม โดยเฉพาะร้านโทรศัพท์มือถือ ที่บางร้านไม่มีฉากกั้น ต้องปรับให้เป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อป้องกันตนเองด้วย
สธ.ยกจีนเตือนโควิดยังวางใจไม่ได้
วันเดียวกัน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคแถลงสถานการณ์โควิด -19 ประจำวันว่า แม้ไทย จะไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ในไทยมา 32 วัน แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ ของให้ดูตัวอย่างจีนที่ปลอดจากโควิดในประเทศมา 55 วัน แต่เริ่มพบผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 11 -24 มิถุนายน 269 คน ทำให้เห็นว่ามาตรการและความเข้มข้นในการป้องกันโควิด-19 ระบาดยังต้องมีอยู่ ส่วนเรื่องเปิดการเดินทางระหว่างประเทศ ในส่วนธุรกิจ หรือ ทราเวล บับเบิ้ล คาดว่าจะมีรายละเอียดสัปดาห์หน้า แต่ต้องพยายามรักษาสมดุลทางสุขภาพและเศรษฐกิจให้คู่ขนานกัน ต้องดูว่าขณะนี้ประชาชนรับได้หรือไม่ หากประเทศไทยจะเปิดประเทศ แต่ต้องมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และรับได้มากน้อยแค่ไหน
ย้ำจะเปิดปท.ต้องวางระบบคุมให้ดี
“ส่วนตัวเห็นว่า อัตราป่วยหากเปิดประเทศ รับได้แค่เฉลี่ย 5 คน ต่อล้านประชากร เพื่อให้คงระบบสาธารณสุขทำงานได้ คนทุกคนต้องร่วมมือกัน เพราะต้องให้เศรษฐกิจขับเคลื่อ น หากเปิดประเทศ จะให้ไม่พบผู้ป่วยเลย เป็นไปได้ยาก และต้องใช้ต้นทุนสูงมาก ขณะนี้ทราบว่าในกลุ่มอียูเริ่มทยอยเปิดประเทศแล้วให้ไปมาหาสู่กัน แต่ประคองสถานการณ์ ให้อัตราผู้ป่วยต่ำ แต่ต้องเข้าใจว่าระบบการแพทย์และสาธารณสุขของต่างประเทศดีกว่าไทย ดังนั้น ต้องจัดวางกลุ่มเข้าที่จะเข้าประเทศให้ดี” นพ.ธนรักษ์กล่าว
และว่า ทั้งนี้ แบ่งเป็น 1.กลุ่มคนที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ มาพำนักนาน เช่น มาเยี่ยมญาติ กลุ่มนี้ยังต้องอยู่ใน state quarantine 2 กลุ่มคนป่วยต่างชาติที่ต้องการเดินทางมารักษาที่ไทย ตรงนี้ไม่น่าห่วงเพราะเท่ากับกักตัวดูอยู่ใน รพ.อยู่แล้ว 3.กลุ่มธุรกิจ ที่เดินทางเข้าไทยไม่นาน ตรงนี้ต้องมีระบบติดตามตัวให้ดี และต้องไม่ปิดเครื่องมือสื่อสาร หรือใช้กำไลติดตามตัว หรืออาจใช้แอพ DDC care ตัวเหมือนในอดีต
นักธุรกิจกว่า2หมื่นลงทะเบียนเข้าไทย
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายบังคับใช้มาตรการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 มีมติให้ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือนโดยจะเสนอให้ศบค.พิจารณา วันที่ 29 มิถุนายนว่า เรื่องนี้ต้องรอผลประชุมศบค.จะให้ความเห็นชอบตามที่เสนอหรือไม่ สำหรับครั้งนี้คง คุมเข้มการเดินทางของนักท่องเที่ยวหรือ travel bubble รวมถึงวันที่ 1 กรกฎาคม โรงเรียนจะเปิดเทอม จึงต้องดูแลเด็กๆเป็นกรณีพิเศษ นอกจากนี้ ในส่วนชายแดนก็น่าเป็นห่วง เนื่องจากยังมีการเดินทางข้ามไปมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีปัญหาอยู่
สำหรับกรณีไม่เข้มงวดกับนักธุรกิจมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปนั้น นายวิษณุชี้แจงว่า มีสองอย่างคือ ถ้าเข้ามาแล้วอยู่ยาว ก็ต้องกักตัว 14 วันก่อน ถ้าอยู่ 3-4 วัน จะมีมาตรการอีกแบบหนึ่ง เช่น ใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะ และเข้าโรงแรมที่ต้องจ่ายเงินเอง พร้อมกับมีตารางเวลาที่ให้ติดตามตัวได้ชัดเจน และต้องชี้แจงด้วยว่าเข้ามาทำธุรกิจอะไร ไปไหนบ้าง ผ่านเครือข่ายแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ที่สำคัญคือ ด่านตรวจสอบโรค ด่านแรกจากประเทศต้นทาง ด่านที่สองคือ เมื่อเดินทางมาถึงไทย จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกโรงแรมที่จะเข้าพักโดยจ่ายเงินเอง ด่านที่สี่จัดทำตารางเวลา ที่จะระบุได้ว่าเดินทางไปไหนมาไหนบ้าง ด่านที่ห้าคือใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะติดตามตัวได้ และด่านที่หกคือ มีกำหนดเวลาที่อยู่แน่ชัด ขณะนี้แจ้งความจำนงมาแล้วกว่า 20,000 คน
เล็งแก้กม.โรคติดต่อดึงมาตรการพรก.ใส่
นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านและกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง มองการคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน มีนัยยะทางการเมืองว่า ไม่เป็นไร ก็เป็นอย่างนี้กันทั่วโลก หลายกลุ่มออกมาคัดค้าน เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ดี ถือเป็นการเตือนสติให้รัฐบาลได้คิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คิดกันว่าจะแก้พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพื่อจะได้ไม่ต้องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป โดยเอามาตรการของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใส่ในพ.ร.บ.โรคติดต่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี