คลังจังหวัดโร่แจ้งความ

มิจฉาชีพเจาะ‘แฮกไลน์’

ตุ๋นเพื่อนโอนเงินนับแสน

“คลังจังหวัดนครราชสีมา” เจอมิจฉาชีพเจาะแฮกไลน์ หลอกยืมเงินหลักแสนเพื่อนสนิทสมัยมัธยมโอนทันที1 หมื่นบาท รวมเหยื่อหลงเชื่อ1.5แสนบาท ตำรวจเร่งอายัดบัญชี ล่าตัวมาดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นางวันเพ็ญ อำพาส คลังจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการระดับซี 9 นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อภิชาต ห่านกระโทก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังถูกมิจฉาชีพแฮกข้อมูลบัญชีแอพลิเคชั่นไลน์ในโทรศัพท์มือถือ สวมรอยเป็นนางวันเพ็ญ ใช้ชื่อไลน์”วันเพ็ญคลังโคราช”ส่งข้อความไปขอยืมเงินเพื่อนข้าราชการ ลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้งประชาชนอีกหลายคน อ้างต้องการใช้เงินด่วน เดี๋ยวจะคืนให้ โดยหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีชื่อ’สุพิชชา ห่อไธสง’ธนาคารทหารไทย เลขที่6352342403 สร้างความเสียหายแก่เจ้าของบัญชีไลน์ ที่สำคัญกระทบกับระบบราชการที่ต้องใช้ไลน์ติดต่อสื่อสารกับกรมบัญชีกลาง ผู้ว่าฯโคราช ส่วนราชการอื่นๆ รวมทั้งพี่น้องประชาชนที่ติดต่อราชการ

นางวันเพ็ญ เปิดเผยว่า ไม่คาดคิดจะถูกแฮกไลน์ตัวเอง เคยเห็นแต่ในข่าว ตอนนี้ได้รับผลกระทบต่อการทำงานอย่างมาก เพราะบัญชีไลน์ในมือถือของตนแจ้งว่า ถูกเปิดใช้งานจากเครื่องอื่น จึงไม่สามารถใช้งานได้ ต้องขาดการติดต่อจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง การติดต่อกับส่วนราชการในจังหวัด รวมทั้งฐานข้อมูลสวัสดิการชิมช็อบใช้และฐานข้อมูลประชาชนที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลต่างๆ ทั้งนี้ ไม่รู้ว่ามิจฉาชีพสามารถแฮกไลน์ตนได้อย่างไร ส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุมาจากการตั้งค่าบัญชีไลน์ส่วนตัว ที่ผู้ใดรู้เบอร์โทรศัพท์มือถือ ก็สามารถเพิ่มเพื่อนในไลน์ได้ ใช้ไอดีไลน์เป็นเบอร์โทรศัพท์ ไม่ได้ล็อกการใช้งาน

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า หลังถูกแฮกไลน์ปรากฏว่ามีเพื่อนข้าราชการ ที่สนิทสนมกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชี 1หมื่นบาท ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบบัญชีปลายทางพบว่า มีคนโอนเงินเข้าไปกว่า 1.5แสนบาทและถูกถอนออกไปแล้ว 1แสนบาท จึงเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ได้โทรศัพท์มาสอบถามเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี สืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง หลังแจ้งความพนักงานสอบสวนได้อายัดบัญชีปลายทาง เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีซ้ำอีก พร้อมเร่งรวบรวมพยานหลักฐานหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป