1 กรกฎาคม 2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(เลขานุการ รมว.ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาของ ศธ. เปิดเผยว่า ตามที่ได้หารือแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครูกับสถานบันการเงินหลัก 3 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ไปแล้วนั้น ขณะนี้มาตรการต่างๆในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว เตรียมเสนอให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. พิจารณาเห็นชอบ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า หนี้ก้อนใหญ่ที่สุดของครูและบุคลากรทางการศึกษา อยู่ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จำนวนกว่า 8.74 แสนล้านบาท , ธนาคารออมสิน ครูมีหนี้อยู่ 3.9 แสนล้านบาท, ธนาคารกรุงไทย 6 หมื่นล้านบาท และ ธอส. 6 หมื่นล้านบาท รวมยอดหนี้ทั้งหมด กว่า 1.4 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีความพยายามจะหารือกับกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ แต่ด้วยข้อจำกัดของระเบียบต่างๆที่สหกรณ์มี จึงต้องไปหารือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล เพื่อขอให้ช่วยจัดกลุ่มหนี้และเชื่อมโยงไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ต่อไป
นายอนุชา กล่าวต่อว่า ในวันที่ 20 กรกฎาคม นี้ จะเริ่มหารือกลับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ทั้งหมดรวม 109 แห่ง แบ่งเป็น 3 รอบ คือรอบแรก วันที่ 20 ก.ค. หารือกับกลุ่มที่มีทุนมากกว่าหนี้ รอบที่สอง วันที่ 21 ก.ค. หารือกับกลุ่มที่มีหนี้มากกว่าทุน และรอบสุดท้าย วันที่ 22 ก.ค.หาณือกลุ่มที่ไม่ใช่สหกรณ์จังหวัด ทั้งนี้ เพื่อเสนอแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น จะเป็นแนวทางเดียวกับการแก้ปัญหาหนี้สินของสถาบันการเงินทั้ง 3 แห่ง ซึ่งจะมีทั้ง พักชำระหนี้ ลดต้น ขยายเวลาการชำระหนี้
แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ โดยคาดว่า มาตรการต่าง ๆจะเริ่มดำเนินการได้หลังเดือนกันยายน นี้เป็นต้นไป เนื่องจากขณะนี้ สถาบันการเงินมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษา ก็ได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าวด้วย เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ เม.ย.-ก.ย.2563
“จากข้อมูลในภาพรวมของ ปี 2562 สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ปล่อยกู้ไปทั้งหมด 3.78 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ ร้อยละ 33 กู้ไปใช้ส่วนตัว , ร้อยละ 23 กู้ไปชำระหนี้สินเดิม , ร้อยละ 17 กู้เพื่อซื้อบ้านและที่ดิน, ร้อยละ 12 กู้เพื่อนำไปใช้ในเรื่องอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังพบว่า เหตุที่วงเงินกู้ในปี 2562 สูงมาก เพราะผู้กู้มีการขอเปลี่ยนสัญญากู้ ซึ่งมีทั้งการจัดไฟแนนซ์ และปล่อยให้กู้เพิ่ม ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูไม่มีปัญหาเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือหนี้ NPL ดังนั้น จึงไม่สามารถบอกได้ว่าการกู้ในปี 2562 เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมด ซึ่งทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ ก็เข้าใจบริบทและได้มีการปรับแก้ระเบียบ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินในหลายเรื่อง และเรื่องสำคัญ คือกฎ กษ.ที่เกี่ยวข้องกับการให้กู้และการให้สินเชื่อของสหกรณ์ออมทรัพย์ และสหกรณ์เครดิตยูเนียน อาทิเช่น กำหนดให้ข้อมูลของผู้กู้ต้อง อยู่ในข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร ต้องเหลือเงินเดือนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 มีการปรับโครงสร้างหนี้ โดยลดจำนวนงวดการผ่อนลง เป็นต้น”
นายอนุชา กล่าวว่า แนวทางในร่างประกาศดังกล่าวนี้ ได้ผ่านการประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนแนวทางที่ ศธ. จะไปหารือกับกลุ่มสหกรณ์ ก็ไม่ถือว่าซ้ำซ้อน แต่เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะมาช่วยบรรเทาภาระหนี้สินครู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี