ป้าวัย 63 ปี แม่ของผู้ต้องหาที่ถูกศาลลงโทษคดีข่มขืนเด็ก 35 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.ที่ข่มขืนเด็กคนเดียวกันเวลาผ่านไป 3 ปียังลอยนวล เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันที่ 4 กรกฎาคม 2563 เวลา 15.30 น. ร.ต.อ. พิชิต ประพาฬ รอง สว. (สอบสวน) สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จว.ศรีสะเกษ ปฏิบัติหน้าที่เวรสอบสวนอยู่นั้น ได้มีนางมะลิวัลย์ เพชรหงส์ อายุ 63 ปี พร้อมด้วยญาติ พี่น้อง เข้าพบพร้อมกับแจ้งความร้องทุกข์ ขอให้ดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.นายหนึ่งในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี เหตุเกิดเมื่อปี 2560 ซึ่งแม่ของเด็กผู้เสียหายได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความไว้แล้ว เวลาผ่านไป 3 ปียังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
นางมะลิวัลย์ เพชรหงส์ ให้การกับ ร.ต.อ. พิชิต ประพาฬ ว่า ตามที่ตนได้เคยร้องเรียนไปที่สำนักงานจเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าเมื่อปี 2560 นายณัฐพล ลูกชายของตนถูก น.ส.รัตนา แม่ของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ซึ่งตอนนั้นเด็กหญิงเอ อายุ 13 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.นายหนึ่ง รอง สว. (สอบสวน) สภ.ดอนแรด จ.สุรินทร์ ในความผิดฐาน พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี และพาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร ทั้งๆ ที่ลูกชายตนกับ ด.ญ.เอรักกัน ไปมาหาสู่กันได้เสียกัน และ น.ส.รัตนาได้บอกให้ตนไปสู่ขอ และนัดวันหมั้นหมาย เรียกสินสอด 350,000 บาท ทองอีก 5 บาทแต่นัดให้มาวางเงินเป็นการหมั้นหมายไว้ในวันที่ 30 มิ.ย.60 ลูกชายตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพ เมื่อใกล้ถึงวันหมั้นลูกชายได้โทรมาบอกว่าเงินยังไม่พอให้แม่ไปขอเลื่อนหมั้นไปก่อน
นางมะลิวัลย์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อตนโทรศัพท์ไปขอเลื่อนวันหมั้น แต่ น.ส.รัตนาไม่ยอมให้เลื่อน กลับพา ด.ญ.เอไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่ง ร.ต.อ.นายนั้น รับคดีแล้วได้พา ด.ญ.เอไปชี้ที่เกิดเหตุที่ลูกชายของตนกับเด็กหญิงเอนอนด้วยกัน ก่อนที่จะขอศาลออกหมายจับลูกชายของตน ตอนที่ ร.ต.อ.นายนั้นพา ด.ญ.เอไปชี้ที่เกิดเหตุแล้วไม่ได้พาไปส่งบ้านแต่กลับพาไปดื่มสปายจนเมาแล้วพาไปกระทำชำเราที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในท้องที่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ หลังจากนั้นได้พาไปกระทำอีก 2 วัน 2 ครั้ง ด.ญ.เอได้เล่าให้ น.ส.รัตนาฟัง น.ส.รัตนาจึงได้พาเด็กหญิงเอไปแจ้งความกับ พงส.สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ พงส.ที่รับแจ้งได้เรียก ร.ต.อ.ที่ถูกกล่าวหามาเจรจา ซึ่ง ร.ต.อ.นายนั้นรับว่าได้กระทำจริงและขอจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้ 250,000 บาทซึ่ง น.ส.รัตนาได้รับเงินแล้ว เป็นการจ่ายเงินค่าเสียหายทางแพ่ง ส่วนคดีอาญา พงส.ไม่ได้ดำเนินคดีแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 ปีตนจึงร้องเรียนไปที่สำนักงานจเรตำรวจ และจเรตำรวจได้มีคำให้ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษสอบสวนเรื่องนี้
“การที่ตนมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ เนื่องจากตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตอนที่ น.ส.รัตนาแจ้งความกล่าวหาลูกชายตน ตำรวจรีบออกหมายจับทันที แล้วพาผู้เสียหายไปกระทำชำเรา แต่หลังจาก ร.ต.อ.นายนี้ได้ก่อเหตุกระทำชำเราเด็กหญิงคนเดียวกัน ซึ่งก็มีความผิดสถานเดียวกันแต่กลับไม่ได้มีการดำเนินคดี เวลาผ่านไป 3 ปี ร.ต.อ.นายนี้ยังลอยนวลอยู่ และใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ ตนเกรงว่าเรื่องจะเงียบหายไป จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ขอให้มีการดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.นายนี้ให้ถึงที่สุด เนื่องจากเป็นตำรวจแล้วมาทำความผิดเสียเอง อย่างนี้ประชาชนจะพึ่งใครได้” นางมะลิวัลย์ กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.พิชิต ประพาฬ รอง สว. (สอบสวน) กล่าวว่า เมื่อมีการมายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ ทาง พงส.ก็ได้รับเรื่องไว้ จริงๆ แล้ว พงส.สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณได้รับเรื่องนี้ไว้เป็นคดีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.63 แต่ผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ก็ไม่ผิดคือจะเข้ามาเป็นโจทย์ร่วม แต่ยังไม่ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ เนื่องจากติดวันหยุดหลายวันซึ่งจะได้นัดมาสอบปากคำในข้างหน้าโดยเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี