รวบมือปืนลวงเพื่อนก๊วนยายิงกลางถนน ที่แท้‘น้ำตาลใกล้มด’ ชิงลงมือก่อน

จากกรณีคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่ จ.สงขลา กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นกระหน่ำยิง นายสุชาติ อโนทัย อายุ 38 ปี เสียชีวิตในสภาพคร่อมรถจักรยานยนต์กลางถนนบ่อลูกรังร้างในพื้นที่บ้านทำนบ หมู่ 6 ต.ทุ่งหวัง อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่3 กรกฎาคม ที่ผ่านมาโดยถูกยิงเข้าบริเวณกลางหลัง 4 นัด และในมือผู้ตายยังกำถุงไอซ์ขนาด 1 กรัมไว้แน่น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่ามาจากปัญหาขัดแย้งเรื่องยาเสพติด

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (5 กรกฎาคม 2563) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้วทั้ง 2 คน และพบว่าสาเหตุมาจากทั้งเรื่องยาเสพติด และเรื่องชู้สาว อีกทั้งผู้ตายและคนร้ายยังเป็นเพื่อนรักกันด้วย โดย พล.ต.ต.โชติ ชัยชมภู รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (รอง ผบช.ภ.9) แถลงข่าวปิดคดีนี้ที่ สภ.เมืองสงขลา หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน 4 หน่วย ทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา , ชุดสืบสวน สภ.เมืองสงขลา , ชุดสืบสวนภาค 9 และชุดสืบสวนกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันสืบสวนหาเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้ง 2 คน ภายในเวลา 2 วัน ประกอบด้วย 1.นายอุดร ไชยทองเพชร อายุ 30 ปี หรือดร มือปืน และ 2.นายธีระพงษ์ จันทอง อายุ 31 ปี หรืออาร์ ซึ่งเป็นนกต่อที่ลวงผู้ตายออกมายิง พร้อมของกลางอาวุธปืนขนด .357 ที่ใช้ก่อเหตุซึ่งใช้กระสุนขนาด .38 และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อกับผู้ตาย และจากการสอบสวนทั้งสองคนก็ยอมรับสารภาพ

พล.ต.ต.โชติ เปิดเผยว่า คดีนี้สาเหตุมาจากทั้งเรื่องยาเสพติดและเรื่องชู้สาว โดยทั้งนายสุชาติ และคนร้ายทั้ง 2 คน อยู่ในกลุ่มค้ายาและเสพยาก๊วนเดียวกัน และสนิทสนมเป็นเพื่อนรักกัน แต่ชนวนเหตุว่านายอุดร แอบไปมีความสัมพันธ์กับภรรยาของนายสุชาติ ทั้งคู่จึงมีปัญหากัน โดยคืนเกิดเหตุนายธีระพงษ์ ได้โทรศัพท์ลวงนายสุชาติให้ออกไปพบที่บริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อซื้อไอซ์ เมื่อมาถึงก็ถูกนายอุดรซึ่งมาดักรออยู่ก่อนแล้ว ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง 4 นัด จนเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ จากนั้นจึงได้แยกย้ายกันหลบหนี

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนหน้านี้ นายสุชาติ ถูกจับกุมคดียาเสพติดมาหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีนี้ และได้ถูกส่งไปบำบัดยาเสพติด และได้ฝากฝังภรรยาให้นายอุดร ซึ่งเป็นเพื่อนรักที่ร่วมเสพยาด้วยกันช่วยดูแล แต่ปรากฏว่าจากความใกล้ชิดและสนิทสนมกัน ทำให้นายอุดร มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาของนายสุชาติ และเมื่อนายสุชาติ ออกจากสถานบำบัดก็ทราบเรื่อง และทะเลาะกับภรรยา จนต้องแยกทางกันมา 3 เดือน

ระหว่างนั้นภรรยาก็ไปอยู่กินกับนายอุดร แต่นายสุชาติ พยายามโทรศัพท์ไปหาเรื่อง ครั้งสุดท้ายได้โทรศัพท์ไปหาภรรยาและพูดขู่ว่าจะยิงนายอุดรให้ตาย ซึ่งตอนนั้นนายอุดร ก็นั่งอยู่ใกล้ๆและได้ยิน จึงเป็นสาเหตุให้ชิงลงมือฆ่านายสุชาติก่อน

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีทั้ง 2 คน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร

สำหรับคดีนี้ในวันเกิดเหตุ ภรรยาของนายสุชาติ ได้เดินทางไปดูศพของสามีที่ถูกยิงตายอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย และไม่มีอาการเศร้าหรือเสียใจแต่อย่างใด พร้อมกับให้สัมภาษณ์ ว่า แยกทางกับสามีมา 3 เดือนเพราะทะเลาะกันและโมโหร้ายชอบทุบตี แต่ยอมรับว่าสามีพัวพันกับยาเสพติด และไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองไปมีสัมพันธ์กับนายอุดร ตำรวจพบพิรุธและเค้นสอบจนทราบเรื่องราวทั้งหมด และขอหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่วนภรรยาเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีส่วนร่วมกับการฆ่า

จากการสอบสวน นายอุดร กลับปฏิเสธว่าไม่ได้มีสัมพันธ์กับภรรยานายสุชาติ ถ้าไม่เชื่อก็ให้ไปถามภรรยาของนายสุชาติ ซึ่งตนก็คอยช่วยเหลือลูกเมียของนายสุชาติ มาตลอดในช่วงกว่า 1 เดือนที่ถูกส่งไปบำบัด เพราะนายสุชาติ ได้ฝากให้ช่วยดูแล แต่พอออกมาก็มาใส่ร้ายตน และโยนความผิดเรื่องค้ายาเสพติดให้ตนทั้งหมด และยังขู่ฆ่า ซึ่งตนแค้นมากจึงลงมือวางแผนฆ่าก่อน