เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยว ชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ประเด็นความคืบหน้าการใช้พลาสม่า (Plasma) สร้างแอนตี้บอดี้ ว่า ผู้ที่หายป่วย 1 คน สามารถบริจาคพลาสม่าได้ 6 ถุง โดยบริจาคได้ทุก 2 สัปดาห์ มีอาสาสมัครหรือฮีโร่ ที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวมากกว่า 150 คน ในจำนวนนี้ได้พลาสม่าของผู้ที่มีภูมิต้านทาน หรือแอนติบอดี้ (Antibody) ระดับสูง 250 ถุง ทั้งนี้ การใช้พลาสมารักษาผู้ป่วยโควิด 1 คน ต้องใช้พลาสมา 1 - 2 ถุง สำหรับวิธีการนำพลาสม่ามาใช้นั้น พลาสม่าที่ได้รับบริจาคมาทำเป็นตัวยาเหมือนเซรุ่มที่ใช้ฉีดโรครักษาตับอักเสบบี พิษสุนัขบ้า เป็นต้น โดยเอามาทำให้เกิดความเข้มข้น ซึ่งจะต้องมีจำนวนที่มากและบรรจุใส่ขวด
โดยจากข้อมูลการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าใช้พลาสม่ารักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดไปแล้วมากกว่า 10,000 ถุง พบว่าผู้ที่ได้รับพลาสม่ากว่า 5,000 คน มีอาการข้างเคียงเล็กน้อยเหมือนกับการรับเลือด หรือน้ำเหลือง ซึ่งมีผลลัพธ์ไม่แตกต่างจากผู้ป่วยโรคอื่น เช่นเดียวกับประเทศจีน ประเทศในกลุ่มตะวันตก อังกฤษ ฮังการี อิตาลี อย่างไรก็ดี พบว่าสหรัฐให้พลาสม่าในการรักษาผู้ป่วยโควิชมากที่สุดในโลก แต่เป็นการใช้ ใน ผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือปอดเทียม ดังนั้น จึงให้ผลการรักษาน้อย
ทั้งนี้ ยืนยันว่าศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มีการจัดส่งให้ถึงผู้ป่วย ตามมาตรฐานสากลโลก และจะจัดให้ผู้ป่วยทุกคนได้รับอย่างเท่าเทียมกันโดย ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
"ขณะนี้การศึกษาวิจัยผลิตวัคซีน เข้าสู่ร่างกายคนเพื่อสร้างแอนติบอดีในทางตรง ป้องกันโรคโควิดฯ ยังไม่สำเร็จ ดังนั้น การนำพลาสม่าของผู้ที่หายจากโควิด มาใช้สร้างแอนตี้บอดี้ทางอ้อม จึงเป็นความหวังในขณะนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานกับผู้ที่ได้รับเชื้อโควิดเข้าไปแล้วจะไม่เกิดการติดเชื้อ"
โดยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติได้ร่วมกับสำนักอนามัยแพทย์ กทม.ได้ศึกษาตรวจวัดระดับภูมิต้านทานโรคโควิด ของผู้ที่หายป่วยจำนวนเกือบ 400 คน ตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อและหายจำนวนมาก ผลการศึกษาพบว่าผู้ที่ตรวจแล้วไม่พบภูมิต้านทาน จำนวน 10 - 12% ลักษณะเดียวกันกับผลการศึกษาในประเทศจีนและกลุ่มประเทศตะวันตก ซึ่งอาการนี้จะเกิดในผู้ป่วยที่มีอาการโรคเพียงเล็กน้อย แค่มีไข้ หวัด ไอ นั้น มีข้อสังเกตว่าผู้เคยติดเชื้อโควิดที่มีอาการรุนแรง เช่น อาการปอดบวม หรือไวรัสลงปอด ผลจากการตรวจหาภูมิต้านทานหลังรักษาหาย 3 เดือน พบว่ามีระดับสูง ซึ่งจะเดินหน้าศึกษาต่อสำหรับคนกลุ่มนี้ โดยจะตรวจวัดระดับภูมิต้านทาน คนกลุ่มนี้หลังรักษาหายแล้ว 6 เดือน 9 เดือน และ 1 ปี ว่าระดับภูมิต้านทานนี้จะลดลงตามระยะเวลาหรือไม่
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังได้ติดตามประมวลผลศึกษาการวัดระดับภูมิต้านทานของผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้เคยป่วยโควิด ซึ่งมีหลักฐานพบว่าคนกลุ่มนี้ 5% ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ โดยการติดเชื้อเกิดขึ้นกับบุคคลในครอบครัวของผู้ป่วยที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด มากกว่าที่จะเกิดกับเพื่อนร่วมงาน
"ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติได้เตรียมความพร้อมในการที่จะนำพลาสม่ามาใช้ในการรักษาผู้ป่วย covid ต่อไป และถ้าเราจะเกิด wave 2 , 3 ก็จะมีพลาสม่าไว้สำรองในการรักษาผู้ป่วยได้เพียงพอ ดังนั้น ขอเชิญชวนคนไทยที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และรักษาหายแล้วมาร่วมบริจาคพลาสม่า หากทุกคนมาบริจาคทุก 2 สัปดาห์ ก็จะทำให้เรามีพลาสม่าเก็บสำรองไว้ในคลังได้ประมาณ 600 - 1,000 ถุง สำหรับอายุของพลาสม่าสามารถเก็บได้นานถึง 1 ปี"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี