7 กรกฎาคม 2563 มีรายงานข่าวจากชาย แแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่า ภายหลังจากที่ประเทศไทยและใน จ.เชียงราย ได้มีประกาศผ่อนปรนมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายเรื่อง เช่น อนุญาตให้เดินทางตามเส้นทางหลายสายได้โดยไม่มีด่านตรวจ และให้สามารถเปิดกิจการต่างๆได้หลายกิจการ ทำให้ผู้ประกอบการต่างๆได้มีการเปิดกิจการกันอย่างคึกคึกโดยเฉพาะประเภทร้านอาหาร ร้านค้า ทำให้เกิดสถานการณ์แรงงานชาวเมียนมาที่อยู่ในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้ามกับ อ.แม่สาย ลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติต่างๆหลายครั้ง แต่ขณะที่ จ.เชียงราย ยังคงมีการปิดด่านพรมแดนห้ามไม่ให้ผู้คนเดินทางเข้าออกทุกจุด ทั้งจุดผ่านแดนถาวรในเขต อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ และจุดผ่อนปรนและช่องทางธรรมชาติตั้งแต่อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น และ อ.เทิง ระยะทางประมาณ 310 กิโลเมตรยกเว้นให้บางจุดเพื่อใช้ขนส่งสินค้ากับประเทศเพื่อนบ้านได้เท่านั้น
โดยเฉพาะการลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามาทาง อ.แม่สาย ที่เป็นชุมชนหนาแน่นทั้ง 2 ฝั่งประเทศและมีชายแดนเป็นเพียงลำน้ำสายและลำน้ำรวกที่กว้างไม่ถึง 10 เมตรและบางช่วงตื้นเขินลึกเพียงระดับขา ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบแรงงาน และประชาชนชาวเมียนมา ที่พยายามจะลักลอบเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้งและพบว่ามีกลุ่มคนที่ทำหน้าที่ลักลอบรับชาวต่างด้าวที่เดินลุยข้ามลำน้ำมาถึงฝั่งไทยและนำพาเข้าสู่ชั้นในของประเทศต่อไป
โดยรายล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้จับภาพกลุ่มคนดังกล่าวได้โดยใช้รถจักรยานยนต์ไปรับคนต่างด้าวที่วิ่งข้ามลำน้ำมาบริเวณพื้นที่หมู่ 2 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จากนั้นได้ขับขี่รถพากันซ้อนท้าย 3 คนหลบหนีไปอย่างรวดเร็วทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกติดตามจับกุม เบื้องต้นพบว่าคนขับขี่รถไปรับเป็นชายสูงวัยส่วนคนซ้ายท้าย 2 คน เป็นคนวัยหนุ่มสาวที่นำสัมภาระเป็นกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วย ล่าสุดยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมอยู่
ทั้งนี้ ในวันนี้ทางกองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง จัดกำลังทำการลาดตระเวรเฝ้าตรวจ บริเวณช่องทางท่าข้าม ในพื้นที่รับผิดชอบ ในขณะทำการลาดตระเวรเฝ้าตรวจมาถึงท่าข้ามหอมแดง บ.เหมืองแดงใต้ ต.แม่สาย อ.แม่สาย จว.เชียงราย ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2 คน ได้เดิน ข้ามแม่น้ำสาย และเดินอ้อมผ่านแนวเครื่องกีดขวางที่วางไว้ ริมแม่น้ำสาย บริเวณท่าข้ามหอมแดง ท่าทางมีพิรุธเจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นทราบว่าเป็น บุคคลคนสัญชาติไทย แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ทราบภายหลังว่าชื่อ นายอุดร ทองคำ อายุ 37 ปี และ น.ส.พรรณปพร คำมาเร็ว อายุ 20 ปี (สามีภรรยา) ผู้ต้องหารับสารภาพว่าต้องการเดินทางไปขึ้นศาล ที่ จว.ตาก แต่เนื่องจากด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 ยังไม่เปิด ทำการ จึงเลือกใช้วิธีข้ามตามช่องทางธรรมชาติแม่น้ำสาย แต่ถูกทาง จนท.ทหาร จับกุมตัวไว้ได้ก่อน
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้พยายามนำรั้วลวดหนามไปกั้นตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 บ้านสันผักฮี้ หมู่ 3 ต.แม่สาย ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับอนุญาตให้ขนส่งสินค้าระหว่างไทย-เมียนมา ได้ แต่ก็พบว่าเมื่อพ้นจุดที่มีการติดตั้งรั้วก็มีความพยายามลักลอบเข้าเมืองอยู่ รวมทั้งมีรายงานว่าได้มีกลุ่มคนที่เรียกเก็บค่าช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวข้ามฝั่งมาหัวละ 5,000 บาทด้วย
ทางด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จึงสั่งการด่วนให้ฝ่ายปกครอง อ.แม่สายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ไข ทำให้นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผกก.ตม.เชียงราย ผกก.สภ.แม่สาย ผกก.สภ.เกาะช้าง อ.แม่สาย ตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) 327 กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจำนวน 23 หมู่บ้านตามแนวชายแดนตั้งแต่ ต.โป่งงาม ต.โป่งผาต.เวียงพางคำ ต.แม่สาย ต.เกาะช้าง และ ต.ศรีเมืองชุม ในวันพุธที่ 8 ก.ค.นี้ เพื่อกำหนดมาตรการแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี