7 กรกฎาคม 2563 จากกรณีนายนพดล น่วมสำลี อายุ 41 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงกลางแสกหน้า น.ส.สุจิตรา เชียงใบ อายุ 23 ปี (ภรรยา) น.ส.จิตรา เชียงใบ อายุ 29 ปี (พี่สาวของภรรยา) และ นางโอลา เชียงใบ อายุ 52 ปี (แม่ยาย) เสียชีวิตรวม 3 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หน้าตลาดนัดมหาสิทธิโชค ถนนมหาสิทธิโชค เขตเทศบาลเมืองนครพนม 

โดยผู้ต้องหาอ้างว่าทำไปเพราะความหึงหวงเมียเด็ก ที่ระแวงจะกลับไปรีเทิร์นกับสามีเก่า อีกทั้งเคยเปิดอ่านบันทึกข้อความของเมียในโทรศัพท์ ระบุวัน-เวลาที่ไปพบกับอดีตสามีคนนี้ไว้อย่างชัดเจน ขณะที่ญาติฝ่ายผู้ตายก็ออกมายืนยันว่ามือปืนคิดไปเอง ทุกครั้งที่คุยจะเกี่ยวกับเรื่องลูกชายวัย 2 ขวบครึ่งเท่านั้น และนำร่างไร้วิญญาณแม่ลูกรวม 3 ศพ ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่สำนักสงฆ์ภาวนาจิตดอนจิกวนาราม และจะฌาปนกิจพร้อมกันทั้งสามศพ ในวันนี้ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุดบรรยากาศภายในงานศพช่วงเช้า ญาติได้ถวายภัตราหารเช้าแก่พระภิกษุ ขณะที่เพื่อนบ้านก็ออกไปตัดไม้มาเรียงเป็นเชิงตะกอนชั่วคราว จำนวน 2 กอง โดยศพของนางโอลาผู้เป็นแม่จะเผาในเมรุ ส่วนศพสองพี่น้องจะเผาอยู่กลางลานกว้างของสำนักสงฆ์หน้าเมรุนั่นเอง เวลาประมาณ 13.00 น. ก็เริ่มเคลื่อนศพขึ้นสู่เมรุ โดยมี ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ หรือคุณน้ำผึ้ง ที่ปรึกษา รมช.คมนาคม นายณพจน์สกร ทรัพยสิทธิ์ หัวหน้าทีมมหานคร และเพื่อนบ้านญาติพี่น้องราว 500 คน มาร่วมส่งวิญญาณบุคคลทั้งสามอย่างคับคั่ง

ด้านอาผู้ตาย เปิดเผยทั้งน้ำตาอีกครั้งว่า ผู้ตายเป็นคนรักสวยรักงาม วันนี้จึงขอแต่งตัวให้สวยที่สุดเพื่อหลานสาวทั้งสอง และจะขอร้องไห้เป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้จะไม่ร้องอีกแล้วเพราะคนทั้งสามได้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์หมดแล้ว ส่วนลูกชายของผู้ตายวัย 2 ขวบครึ่ง ก็ยังไม่รู้ว่าแม่ ป้า ยาย ถูกฆ่าตาย ยังคงถามหาอยู่ทุกวัน เมื่อเห็นรูปแม่ตัวเองตั้งหน้าโลงศพก็บอกว่า"แม่อยู่นี่ไง" คุณตาก็บอกทั้งหมดเขาไปอยู่สวรรค์กัน ไม่กลับมาหาน้องแล้ว ถ้าคิดถึงให้พนมมือไหว้ระลึกถึง แล้วพวกเขาจะมาหาในความฝันเอง ซึ่งขณะประกอบพิธีทางศาสนา ลูกชายวัย 2 ขวบของผู้ตายยังคงซุกซนเล่นตามประสาเด็กอยู่หน้าโลงศพของแม่ตนเอง

พ.ต.ท.จีรุฏฐ์ พิมพา รอง.ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่าได้ส่งตำรวจนอกเครื่องแบบมาคุ้มครองพยาน เพราะถือว่าเป็นพยานปากสำคัญ ซึ่งเคยถูกนายนพดลมือปืนขู่จะฆ่าล้างโคตร เกรงจะถูกลูกน้องของนายนภดลตามมาฆ่าจึงต้องคุ้มครองพยาน ส่วนผู้ต้องหาขณะนี้ฝากขังอยู่ในเรือนจำกลางนครพนม พนักงานสอบสวนตลอดจนญาติผู้ตายคัดค้านการประกันตัว แม้ญาติของฝั่งมือปืนจะหอบหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัวถึง 3 ล้านบาท เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ หวั่นออกมาข่มขู่คุกคามพยาน