ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ พร้อมภาคีเครือข่าย เข้าพบรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เพื่อสนับสนุนนโยบายต้านบุหรี่ไฟฟ้า ชี้ส่งผลเสียต่อร่างกายไม่ต่างจากบุหรี่ปกติ
ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายเพื่อการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ เดินทางเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เพื่อแสดงความยินดีที่ได้รับรางวัล World No Tobacco Day 2020 จากองค์การอนามัยโลก(WHO) พร้อมร่วมสนับสนุนจุดยืนของนายอนุทิน ที่ประกาศอย่างชัดเจนว่า จะไม่สนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในประเทศ
นายอนุทิน กล่าวว่า รู้สึกยินดีและมีกำลังใจมากขึ้น ที่ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงาน และเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านสาขาต่าง ๆ เข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินนโยบาย พร้อมให้คำมั่นว่า สิ่งที่เคยประกาศไปนั้น จะยังคงดำเนินต่อไปและไม่เกรงกลัวต่อแรงกดดันใด ๆ พร้อมยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนด้านงบประมาณในการเพิ่มองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนเลิกสูบบุหรี่กันมากขึ้น สามารถประสานงานผ่านอธิบดีกรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือประสานงานมาโดยตรงที่สำนักงานปลัดกระทรวงได้
ขณะที่ ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี กล่าวว่า ที่มาพบกับรองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณะสุข ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงความยินดีแล้ว ยังถือเป็นการสนับสนุนจุดยืนที่ไม่สนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้า เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีหลายฝ่ายพยายามผลักดันให้เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากสังคมและเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายก็ตาม และจากการที่ นายอนุทินเข้าไปร่วมงานขับเคลื่อนต่าง ๆ ของสมาพันธ์ฯ ก็เป็นสิ่งที่บ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่า มีความตั้งใจจริงที่จะให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ปลอดจากบุหรี่อย่างแท้จริง
ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี กล่าวว่า ในส่วนของสมาพันธ์ฯ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนตระหนักและเห็นถึงพิษภัยของบุหรี่ร่วมกับภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ โดยลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพให้ครอบคลุม ทั้งในโรงเรียน ตลาด ชุมชน ฯลฯ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันรณรงค์ และแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะหากคนที่สูบบุหรี่ติดเชื้อไวรัสแล้ว จะมีความเสี่ยงมากกว่าบุคคลทั่วไป เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดนี้ทำลายปอดโดยตรง
“บุหรี่ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม จะเป็นตัวนำไปสู่สิ่งเสพติดชนิดอื่นๆ มีสารก่อมะเร็งมากกว่า 70 ชนิด ทำให้มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้น หากคนไหนต้องการจะเลิกบุหรี่ก็สามารถขอเข้ารับคำปรึกษาได้หลายช่องทาง ทั้งสายด่วน 1600 หรือคลินิกฟ้าใสในโรงพยาบาลที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อขอเข้ารับการบำบัดรักษาได้ทันที ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพและประหยัดเงินได้มากด้วย” ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี กล่าว
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ยังคงเรื่องการห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยไว้ และห้ามขายต่อไป แต่จะห้ามขายต่อไปได้นานเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการของบุหรี่ไฟฟ้าว่าจะได้รับการพัฒนาอย่างไร รวมไปถึงระบบการดูแลและสมรรถนะการควบคุมยาสูบชนิดใหม่ ๆ ของประเทศไทยด้วยว่า จะเป็นไปในทิศทางไหน อย่างไร แต่จากการทำงานด้านควบคุมยาสูบที่ผ่านมา ก็มีปัญหาและอุปสรรคอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรเพิ่มการสูบบุหรี่ประเภทใหม่ ๆ ขึ้นมาอีก
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาพบว่า มีบริษัทบุหรี่ข้ามชาติพยายามดึงดูดให้เยาวชนคนรุ่นใหม่หันมาสูบบุหรี่มากขึ้น พยายามออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมา จนกระทั่งเป็นบุหรี่ไฟฟ้าในที่สุด ทำให้เยาวชนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น เพราะมีแรงดึงดูด ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ หรือกลิ่นปรุงแต่งที่ทำให้อยากลองสูบ นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เยาวชนหันมาสูบบุหรี่ปกติอีก 3 - 4 เท่า ดังนั้น บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นทำให้เกิดปัญหาผู้ที่เสพติดนิโคตินหน้าใหม่
“อยากฝากถึงเด็กและเยาวชนว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่ไม่มีอันตรายเท่านั้น แต่ยังมีสารพิษและสิ่งที่มีผลทำให้ปอดอักเสบ และภูมิต้านทานลดลง ไม่ต่างจากการสูบบุหรี่ปกติ หากเป็นไปได้ก็ไม่ควรสูบเพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง โดยขณะนี้ มูลนิธิฯ ได้ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่นักเรียนในสถานศึกษา พร้อมสร้างเครือข่ายนักเรียน โดยตั้งชมรมเยาวชนปอดสะอาด ให้กลุ่มเด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมในการรณรงค์ภายในสถานศึกษาของตัวเอง ซึ่งมูลนิธิฯ พร้อมให้การสนับสนุนและจัดฝึกอบรมให้ความรู้เท่าทันเกี่ยวกับกลยุทธ์ของบริษัทบุหรี่อีกด้วย” เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าว
ศ.นพ.รณชัย กล่าวว่า จากการมาพบกับนายอนุทินทำให้ทราบจุดยืนที่แสดงออกอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก และชื่นชมการดำเนินงานที่จะไม่สนับสนุนบุหรี่ทุกชนิด พร้อมสนับสนุนไปยังภาคส่วนต่าง ๆ ในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพิษภัยของการสูบบุหรี่กระจายวงกว้างไปในทุกระดับของสังคม ขณะเดียวกัน ศจย. ได้เผยแพร่ข้อมูลมาโดยตลอดว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้มีส่วนช่วยให้การสูบบุหรี่แบบปกติลดลงไป และยังพบอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่นสูงขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียของสุขภาพนำไปสู่การสูญเสียค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากในอนาคต โดยโรคที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้ามีหลายประการ ทั้งปอดอักเสบ โรคหลอดเลือดหัวใจ ดังนั้นสิ่งที่ ศจย. ได้ดำเนินการมาโดยตลอดเพื่อให้เห็นถึงคุณค่าของการควบคุมยาสูบก็เป็นไปเพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้น เพราะบุหรี่เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการสูญเสียค่ารักษาพยาบาลมากที่สุดหากเทียบกับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี