■■ รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้าฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าเวรร่ายข่าวสังคม “ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม” ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น...■■ หันซ้าย แลขวา เห็นแต่ความมืดมน “อนธกาล” มองไม่เห็น อนาคตของประเทศไทย ว่า หลังแต่นี้ต่อไป อะไรจะเกิดขึ้น และชีวิตของประชาชนจะอยู่กันอย่างไร....■■ และถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรักษาอำนาจทางการเมือง โดยไม่สนใจกับเรื่อง “ปากท้อง” และ “เศรษฐกิจ” ของประเทศไทย เราจะอยู่กันอย่างไร ว้าเหว่ อ่านว่า ว้าเหว่...■■ วันที่ 11 กรกฎาคม นี้ ที่ อ.จะนะจ.สงขลา จะมีเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ ต.นาทับต.สะกอม และ ต.ตลิ่งชัน เกี่ยวกับเมืองต้นแบบที่ 4 หรือ “เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” ที่จัดโดย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. เพื่อให้ตัวแทน กลุ่มทุน ได้มานำเสนอรายละเอียดของโครงการให้คนในพื้นที่ได้รับรู้ ซึ่งเปรียบเหมือนกับสัญญาประชาคม ระหว่างกลุ่มทุน กับคนในพื้นที่ ว่าอะไรมี อะไรไม่มี...■■ แต่ข่าวล่ามาเร็ว แจ้งว่า เอ็นจีโอ ที่มีแกนนำ “ตัวพ่อ” ซึ่งเคยขับเคลื่อน ขัดขวางการสร้างโรงแยกก๊าซ ไทย-มาเลเซียมาแล้ว เมื่อ 20 กว่าปีก่อน วางแผนที่จะล้มเวทีให้ได้ เพื่อที่จะปิดหูปิดตาประชาชน เหมือนอย่างที่เคยทำมาในหลายครั้งหลายเวที ทั้งใน จ.สตูล และ สงขลา....■■ ก็เห็นใจ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ที่ต้องรับบทหนัก โดยกลุ่มผู้เห็นด้วย ต่างชื่นชมให้ช่อดอกไม้ ในขณะที่เอ็นจีโอและกลุ่มผู้เห็นต่าง กล่าวโจมตีด้วย “ก้อนอิฐ” ที่นี่ก็ทำได้เพียงให้กำลังใจและให้สู้ๆๆ...■■ เช่นเดียวกับ พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้รับผิดชอบฝ่ายความมั่นคง ที่ต้องทำหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ให้การ เปิดเวที เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ซึ่งล่าสุดในทาง “การข่าว” พบว่า เอ็นจีโอมีการระดมพล เพื่อขัดขวางอย่างเต็มที่จึงอยู่ที่ รองแม่ทัพ “เคเค” ว่าจะวางแผนรับมือได้ “เนียน” ขนาดไหน...■■ สำหรับ พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.ภ.จว.สงขลา เจ้าของพื้นที่ซึ่งเป็นผู้รักษากฎหมาย ที่ต้องรับผิดชอบต่อสถานการณ์อย่างหนีไม่ออกได้เตรียมกำลังไว้แล้ว 3 กองร้อย โดยปราศจากอาวุธ เพื่อรับมือกับเหตุสุดวิสัยที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะเอ็นจีโอกลุ่มนี้ไม่ธรรมดา อ่านว่า ไม่ธรรมดา...และข่าวล่าสุดจากหน่วยข่าวรายงานว่า ฝ่ายต่อต้าน มีการแจกเงินหัวละ 200 ให้กับผู้ที่ร่วมคัดค้านโครงการเมืองต้นแบบที่ 4...■■ก็เพิ่งจะเห็นกันจะจะ ก็ครั้งนี้แหละว่า การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสร้างความอยู่ดีกินดี สร้างอนาคตให้กับลูกหลานของคนใต้ ยุ่งยากและมีปัญหาอุปสรรค เหมือนกับการทำสงครามกับขบวนการแบ่งแยกดินแดน ทั้งที่ผู้ “เห็นด้วย” และ “เห็นต่าง” ต่างเป็นคนในพื้นที่ เป็นมุสลิมเหมือนกัน...■■ ที่สำคัญที่อยากจะ “กระตุก” ต่อมความสำนึกของคนในพื้นที่ก็คือ มีเหตุผลอะไรที่ คนในพื้นที่จะต้องให้คนนอกพื้นที่ซึ่งเป็น “เอ็นจีโอ” มา “สนตะพาย” ในการกำหนดอนาคตของตนเอง....■■ ดูหาดใหญ่วันนี้ งานท่องเที่ยวล่มจม ธุรกิจการค้าจบสิ้น โรงแรมอย่างน้อย 5 โรง ปิดตัวถาวรและประกาศขาย...■■ เจ้าของกิจการให้พนักงานเขียนจดหมายลาออก เลิกจากการเป็นพนักงานมาเป็น ลูกจ้างรายวัน และแบ่งงานกันทำ 10 วันต่อคนต่อเดือน...■■ สถานการณ์อย่างนี้ ผู้นำเศรษฐกิจ ธุรกิจ การท่องเที่ยว หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ถ้ายังนั่ง “เจี๊ยะเต๊” กันได้ ก็ถือว่าหาดใหญ่วันนี้ตัวใครตัวมัน...■■ แต่ จารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา คนเป็นพ่อเมือง จะตัวใครตัวมันไม่ได้ ต้องเร่งทำการประสานงาน เพื่อให้ผู้นำภาคประชาชน ได้หันหน้ามา ร่วมวงพูดคุยเพื่อหาทางออกจาก “วังวน” ที่เกิดจาก พิษสงของ “โควิด-19”....■■ สำหรับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ อาชีพหนึ่งที่ กลายเป็นอาชีพ เลี้ยงปากเลี้ยงท้องคือการค้ายาเสพติด ที่แพร่หลายในทุกหมู่บ้าน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดผลงานการแก้ปัญหายาเสพติดของ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ ชูสโลแกนการปราบปรามยาเสพติด ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ดีว่า สำเร็จ หรือ ล้มเหลว...■■ และที่น่าสังเกตในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา รถ จยย.ใน 3 จังหวัด ถูกโจรกรรม เป็นว่าเล่น ใครคือคนร้าย เอาไปไหนไปทำอะไร เป็นหน้าที่ของ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช. ภ.9 ที่ต้อง “เช็คบิล” กับลูกน้องในแต่ละพื้นที่ซึ่งมีเหตุ ■■
ปรีชา สถิตย์เรืองสักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี