ชุด ปส.พัทลุง ร่วม ตร.สส.ภาค 9 และตำรวจเมืองคอน ล้อมจับ "หัวชี ป่าบอน" เสือร้ายพัทลุงหนี 4 หมายจับค้นบ้านเจอปืน 5 กระบอก

วันที่ 9 ก.ค.63 พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หน.ชปส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สืบทราบว่า นายอนุรักษ์ อินทรัสพงศ์ อายุ 26 ปี ฉายา "หัวชี ป่าบอน" หรือ "บ่าว ป่าบอน" ผู้ต้องหาคดียาเสพติดคนสำคัญของจังหวัดพัทลุง และเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจภูธรภาค 9 มีหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง คดียาเสพติดจำนวน  3 หมายและหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ในคดีพยายามฆ่าอีก 1 หมาย ได้หลบหนีมากบดานเช่าบ้านเลขที่ 87/50 ซอยกะโรม 14 ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

พ.ต.ท.วิรัตน์ จึงนำกำลังตำรวจชุด ชปส.ภ.จว.พัทลุง พร้อมด้วยตำรวจ กก.สส.ภ.พัทลุงและตำรวจ บก.สส.ภ.9 มาประสานกับ พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.เชาว์ศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.ฯ และ พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.ท.สุชาติ ศรีอุทัย ตำรวจชุด ชปส.ภ.นครศรีธรรมราช รวมกำลังกว่า 20 นายและอาวุธปืนครบมือ เดินทางไปล้อมจับกุมนายอนุรักษ์หรือ "หัวชี ป่าบอน" ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านเช่าดังกล่าว

เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเดินทางถึงบ้านเช่าดังกล่าว จึงกระจายกำลังปิดล้อมรอบบ้านแล้วเคาะประตูให้นายอนุรักษ์ หรือ หัวชี ป่าบอน เปิดประตู เมื่อนายอนุรักษ์ เปิดประตู พ.ต.ท.วิรัตน์ และกำลังตำรวจบุกเข้าจับกุมนายอนุรักษ์ หรือ หัวชี ทันที พร้อมกับตรวจค้นในห้องพักพบอาวุธปืน 11 มม.จำนวน 1 กระบอก,อาวุธปืน 9 มม.จำนวน 4 กระบอก,กระสุนปืน.45 และกระสุนปืน 9 มม.รวมกว่า 100 นัด, ยาบ้า 70 เม็ด และชุดตกแต่งอาวุธปืน 1 ชุด และยาแก้ไอ 100 กว่าขวด

จึงคุมตัวนายอนุรักษ์ หรือ หัวชี ป่าบอน สอบสวนขยายผลที่ บก.ชปส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช มี พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ร่วมสอบสวนปากคำนายอนุรักษ์ โดยนายอนุรักษ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 4 หมายจริง และยอมรับว่าค้ายาเสพติดจริง โดยนำยาบ้าแลกอาวุธปืนที่เจอในห้องพักทั้ง4กระบอก โดย 1 ใน 4 กระบอก ตนเคยนำไปก่อคดียิงสามีใหม่ของอดีตภรรยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสในท้องที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และทราบว่าตำรวจพัทลุงและตำรวจภาค 9 ไล่จับกุมตนอย่างหนัก จึงหลบหนีมากบดานที่บ้านเช่าในเขต อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นาน 4 เดือน กระทั่งถูกตำรวจพัทลุง ตำรวจภาค 9 และตำรวจนครศรีธรรมราช สนธิกำลังจับกุม ก่อนจะคุมตัวกลับ จ.พัทลุง ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป