เดินหน้าทุบทิ้งรีสอร์ทหรู
รุกที่ภูทับเบิก
ชุดพยัคฆ์ไพรเปิดยุทธการ
จับคนงานดำเนินคดีเพียบ
โจรล้วงคอป่าไม้วังน้ำเขียว
ขโมยไม้ของกลางส่งนอก
กรมป่าไม้-ชุดพยัคฆ์ไพร ลุยจับรีสอร์ท รุกสร้างที่พักบนผาหัวสิงห์ จุดชมวิวภูทับเบิก ในขณะที่ตำรวจโคราชตะครุบแก๊งโจรขโมยไม้ของกลางจากหน่วยป้องกันรักษาป่า อ.วังน้ำเขียว สารภาพเตรียมนำไม้ส่งไปยังชายแดน
มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตามแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกบริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก โดยใช้กลไกขับเคลื่อนของศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีนายวราวุธ ศิลปะอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป) ได้สั่งการให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ประสานการปฎิบัติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย พ.อ(พิเศษ) พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดปฎิบัติการ ศปป4 , กอ.รมน. , นายอัครชัย อาสุ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก , ตำรวจ ปทส. , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้
เข้าตรวจสอบจากกรณีที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ พบการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่บริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก มีการฝ่าฝืนก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ขึ้นในบริเวณนี้ และตรวจสอบพบบางรายบุกรุกก่อสร้างในพื้นที่ ซึ่งเคยถูกดำเนินคดีและศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่บุกรุก และภาครัฐได้ใช้คำสั่ง คสช.ที่35/2559 รื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกนอกพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลเข้ามาบุกรุกยึดถือครอบครอง และก่อสร้าง รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ เพื่อบริการนักท่องเที่ยว บางรายตรวจสอบพบเป็นบุคคลเดิมที่เคยถูกดำเนินคดีแล้ว โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองและเป็นพื้นที่ป่าในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้
คณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงได้เดินทางเข้าดำเนินการตรวจสอบตามแผนปฏิบัติการดั้งกล่าวข้างต้น ผลการตรวจสอบดำเนินการดังนี้
1. เมื่อวันที่ 9 ก.ค.63 ดำเนินการตรวจยึดจับกุมกลุ่มบุคคลที่เข้ายึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้ ในความรับผิดชอบของ กรมป่าไม้ จำนวน 3 คดี ประกอบด้วย คดีที่1 ผู้ต้องหา นายพีระพจน์ รักษ์มณี พื้นที่บุกรุก 4-3-28 ไร่ , คดีที่ 2 ผู้ต้องหา นาย กัวเน้ง แซ่ท้อ พื้นที่บุกรุก 3-2-12 ไร่ , คดีที่ 3 ไม่พบผู้กระทำผิด พื้นที่บุกรุก 1-2-68 ไร่ และทางฝ่ายปกครองได้ร่วมตรวจสอบแจ้งความเพิ่มดำเนินคดีตาม พรบ.ควบคุมอาคารปี พ.ศ.2522 และพรบ.โรงแรมปี พ.ศ. 2547 ทุกราย
2.วันที่ 10 กค. 63 คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันติดประกาศตามคำสั่ง คสช.ที่ 35/2563 ทั้ง 3 แปลงเพื่อให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ออกจากพื้นที่เพื่อฟื้นฟูพื้นที่กลับมาดังเดิมและชุดปฏิบัติการได้ขยายผลตรวจสอบพบการบุกรุกยึดถือครอบครอง ก่อสร้างรีสอร์ท , บ้านพักตากอากาศอีกจำนวน 5 จุดบริเวณใกล้เคียง ขณะเข้าตรวจสอบพบคนงานจำนวนมากกำลัง ก่อสร้างต่อเติมอาคารหลายแห่ง
ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงเข้ากระจายกำลังควบคุมจับกุมได้ผู้กระทำผิดเป็นคนงานจำนวน 20 คน และตรวจสอบพบเจ้าของรีสอร์ทในที่เกิดเหตุ 2 รีสอร์ทในที่เกิดเหตุโดยตรวจสอบพบว่า 2 รายดังกล่าว เคยถูกแจ้งความดำเนินคดีมาแล้ว และศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษให้จำคุกและโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มาแล้ว และสิ่งก่อสร้างเดิมได้ถูกรื้อถอนออกไปหมดแล้ว แต่ได้กลับมายึดถือครอบครองก่อสร้างในที่เดิม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ ได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด มาดำเนินการทำบันทึกดำเนินคดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อีกประเด็นหนึ่งเมื่อ 11 กรกฏาคม 2563 เวลา 02.00 น. พันตำรวจเอกประชุม แถมกลาง ผู้กำกับการ สภ.อุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกัน และพัฒนาป่าไม้วังน้ำเขียว ได้สืบทราบว่า จะมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งทำการลักลอบเข้าไปขโมยไม้ของกลาง ที่เก็บรักษาไว้ในหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.4 (เขาภูหลวง) นายชยุต วราพิริยะกุล หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้วังน้ำเขียว จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่วางกำลังซุ่มดักรอ และได้ประสานงานกับกำลังชุดตำรวจสืบสวน และชุดงานป้องกันและปรามปราม สภ.อุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา สนับขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมสกัดจับกลุ่มคนร้าย
โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถไถการเกษตรกั้นขวางถนนที่เป็นทางออกจากหมู่บ้าน และพบรถกระบะของคนร้ายซึ่งบรรทุกไม้ที่ขโมยขนมาจากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.4 (เขาภูหลวง) มาเต็มคันรถโดยใช้ผ้าใบคลุมท้ายรถมา ขณะจับกุมคนร้ายมีอาวุธปืนลูกซองพร้อมที่จะยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ แต่คนร้ายได้ถูกเจ้าหน้าที่ยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บ ก่อนสามารถจับผู้ต้องหาได้ 2 คน และหลบหนีไปได้อีกเกือบ 10 ราย เบื้องต้นสารภาพว่า จะนำไม้ทั้งหมดไปยัง อ.ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ สภ.อุดมทรัพย์ เพื่อสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี