การเกษตรมีวิวัฒนาการมายาวนาน เพราะเป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ ดังนั้นจึงมีการขวนขวายเพื่อหาอาหารมาดำรงชีพอย่างต่อเนื่อง แต่เดิมเป็นการหามาจากธรรมชาติ เมื่อจำนวนประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้น ความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการเลียนแบบธรรมชาติในการผลิตอาหาร รู้จักการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ได้อาหารมาเพียงพอต่อการยังชีพ
ต่อมาการเกษตรถูกนำไปใช้สร้างฐานะทางเศรษฐกิจ ระบบการผลิตแบบดั้งเดิมจึงเปลี่ยนไป จากที่ผลิตเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน กลายเป็นการเร่งผลิตเพื่อสร้างความมั่งคั่งแทน กระบวนการผลิตจึงต้องพัฒนาไปจากวิธีการเดิมๆ มีการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ มีการปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้ได้ผลผลิตสูง มีคุณภาพตามต้องการ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ปัจจัยการผลิตเพิ่มมากขึ้นจากเดิม ทั้งการใช้ปุ๋ยเคมี การใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้พืชดังกล่าวสามารถให้ผลผลิตได้ตามต้องการ จากเหตุดังกล่าว จึงเกิดประเด็นของสารเคมีตกค้างในผลผลิตทางการเกษตรตามมา เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกเอง ในขณะที่การให้ปุ๋ยแก่ต้นพืช ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์ ตามความต้องการของพืชก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตในรูปแบบที่หวังให้ได้ผลผลิตสูงสุด การใช้ปัจจัยการผลิตต่างๆ ในการผลิตพืช ทำให้เกิดรูปแบบในการทำการเกษตรขึ้นหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละวิธีการต่างเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับเกษตรกร และย่อมส่งผลต่อรายได้ที่เกษตรกรจะได้รับตามไปด้วย เพราะจะต้องนำต้นทุนต่างๆ เหล่านั้นไปคำนวณเมื่อเก็บเกี่ยวและขายผลผลิตได้ยิ่งหากผลผลิตออกมาในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางการตลาดไม่ดี ระบบการตลาดที่ผ่านมือหลายมือกว่าจะถึงผู้บริโภคคนสุดท้าย ในที่สุดเกษตรกรอาจไม่เหลืออะไรเลยจากระบบการผลิตและการตลาดดังกล่าว ซ้ำร้ายอาจต้องถึงกับติดลบกันได้เลยทีเดียว
ปัจจุบันคำว่า “เกษตรมูลค่าสูง” “เกษตรสร้างมูลค่า” หรือ “เกษตรแบบสร้างมูลค่าเพิ่ม” เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกเข้ามาในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเกษตรโดยมุ่งให้เกิดการอยู่ดีกินดี ให้คนในชาติสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข สร้างความมั่นคงทางอาหาร ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นการสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับผู้ผลิต มาตรการต่างๆ ในประเด็นการเกษตรภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติจึงถูกนำมาใช้ ประเด็นหนึ่งที่เห็นว่ามีความสำคัญและสามารถสร้างมูลค่าให้สินค้าเกษตรได้เป็นอย่างดี เข่น การแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อการสร้างมูลค่าและคุณค่าให้มากขึ้น กอปรกับการพัฒนาตัวเกษตรกรให้เป็น smart farmer หรือแม้แต่เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ (young smart farmer) เพื่อรองรับการนำไปสู่การทำการเกษตรแบบสร้างมูลค่า ตามที่ได้เห็นกันผ่าน clip ต่างๆ ที่คนรุ่นใหม่อายุราว 25 ปี ประสบความสำเร็จในการนำเอาผลผลิตทางการเกษตรของครอบครัวมาแปรรูปและส่งจำหน่าย สร้างรายได้เดือนละกว่า 1 ล้านบาท จากการนำความรู้ที่ได้จากการไปฝึกงานที่ประเทศจีน เห็นสภาพความต้องการบริโภคสินค้าเกษตร รวมทั้งจำนวนประชากรที่จะ
ส่งผลต่อความต้องการของตลาด เมื่อกลับมา แม้ว่าจะต้องเล่าเรียนให้จบ แต่ก็ไม่ละเลยที่จะนำเอาสินค้าเกษตรมาแปรรูป เพี่อสร้างมูลค่าและส่งจำหน่าย จะเห็นว่าการเกษตรในยุคปัจจุบันและในอนาคต มูลค่าจะเพิ่มหรือสร้างให้เกิดมูลค่าได้ จะต้องคิดและดำเนินการให้ครบตั้งแต่การผลิตถึงการตลาด จึงจะเกิดผลดีแก่เกษตรกรเอง สมกับเจตนาของยุทศาสตร์ชาติด้านการเกษตรที่นำประเด็นเกษตรสร้างมูลค่ามาบรรจุไว้ ซึ่งหากไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆเลยเกษตรสร้างมูลค่าอาจกลายเป็นเกษตรไร้มูลค่าก็เป็นได้
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี